การ “ลงทุนเพิ่ม” ไม่ได้หมายความว่า “ต้นทุนเพิ่ม”
ถ้าเป็นการลงทุนที่ ทำให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น และผลผลิตสูงขึ้น ก็ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ปัญหาราคายางตกต่ำได้ “ฝังรากลึก” ในอาชีพสวนยาง อย่างน้อยๆ ก็ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ชาวสวนยางต่างได้รับผลกระทบอย่างถ้วนหน้า โดยเฉพาะชาวสวนยางที่ยึดยางพาราเป็น
ขณะที่ราคายางในอนาคตยังไม่เห็นแนวโน้มว่าจะขยับสูงขึ้นในระยะยาว
นั่นหมายความว่าราคายางจะยังคงตกต่ำต่อเนื่องไปอีกหลายปี
ถ้าราคายางยังตกต่ำอยู่อย่างนี้
ประกอบกับชาวสวนยางยังทำสวนยางแบบเดิมๆ คือ ผลผลิตต่อไร่ต่ำ แต่ต้นทุนการผลิตและต้นทุนแรงงานสูงขึ้นเรื่อยๆ
อาชีพยางพาราคงถึง “ตอนอวสาน” อย่างแน่นอน
ถ้าชาวสวนยางยังไม่ปรับตัว
เพื่อหาแนวทางการทำสวนยางรูปแบบใหม่ ที่ให้ผลผลิตสูง...!!!
หนึ่งในแนวทางการทำสวนยางเพื่อเพิ่มผลผลิตน้ำยางที่มีการทำกันมานานในประเทศมาเลเซีย
และประเทศไทย คือ การทำสวนยางเอทธิลีน ระบบ เลทไอ (Let-I) ที่สามารถเพิ่มน้ำยางได้มากถึง 300%
“เลทไอ” (LET-
I) ของ หจก. ไอที รับเบอร์ เป็นผู้นำฮอร์โมนเอทธิลีนในยางพาราไทย
เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ประดิษฐ์โดยคนไทย จนได้รับสิทธิบัตรคุ้มครองทางกฎหมาย โดยเป็นอุปกรณ์แบบ
“ฝาครอบเหล็ก” รายแรกในประเทศ และต่างประเทศ ข้อดีของอุปกรณ์แบบฝาครอบเหล็ก
คือ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้คงทน ลงทุนครั้งเดียวใช้ได้นานหลายปี ที่สำคัญเกษตรกรสามารถติดตั้งง่าย และสะดวก
😜 เอทธิลีน
ช่วยน้ำยางไหลนาน ผลผลิตเพิ่มขึ้น 300%
“เอทธิลีน” คือ ฮอร์โมนที่มีอยู่ในพืชโดยธรรมชาติ รวมถึงในต้นยางพารา เพียงแต่จะสูญเสียไปกับการกรีดเพื่อเอาน้ำยาง
ส่งผลให้เอทธิลีนในต้นยางค่อยๆ ลดหายไป จนไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตและสร้างน้ำยาง
จึงมีแนวคิดนำเอทธิลีนมาเติมให้ต้นยาง ซึ่งเป็นเอทธิลีนที่มีความบริสุทธิ์สูง
99.99 %
ฮอร์โมนตัวนี้ช่วยกระตุ้นท่อน้ำยางให้ขยายตัว จึงช่วยให้น้ำยางจึงไหลได้นานกว่าปกติ หรือประมาณ 13-15 ชั่วโมง ปริมาณจึงเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 3-5 เท่า นอกจากนั้นยังพบว่าเมื่อใช้เอทธิลีนอย่างต่อเนื่องยังมีส่วนช่วยการเจริญเติบโตของต้นยางอีกด้วย
😜 อุปกรณ์ระบบ
“เลทไอ” ประหยัด ทนทาน ติดตั้งง่าย
เอทธิลีนที่จะใช้กับต้นยางต้องใช้ร่วมกับอุปกรณ์ติดตั้ง
เพื่อให้ตัวฮอร์โมนซึมผ่านเข้าสู่เปลือกยางได้ง่าย อุปกรณ์เลทไอ ประกอบไปด้วย
1.กล่องฝาครอบเหล็ก มีลักษณะเป็นรูป 4 เหลี่ยม ผลิตจากเหล็กกล้าอย่างดี
อุปกรณ์ตัวนี้ใช้ตอกเข้ากับเปลือกยางลึกประมาณ 3 มม.
เพื่อให้ฮอร์โมนค่อยๆ ไหลซึมเข้าเปลือกยางและระบบท่อน้ำยาง
2.
ถุงเก็บฮอร์โมนและท่อสายยางสำหรับอัดเอทธิลีน ฮอร์โมนเอทธิลีนจะอัดเข้าไปทางท่อสายยาง
เพื่อนำไปเก็บไว้ในถุง ก่อนจะไหลเข้าสู่กล่องฝาครอบเหล็ก จากนั้นจะค่อยๆ
ซึมเข้าเปลือกยาง อุปกรณ์ติดตั้งเอทธิลีนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
เพราะถ้าอุปกรณ์ไม่ดีจะมีผลต่อประสิทธิภาพของฮอร์โมน
อาจทำให้เอทธิลีนเกิดการรั่วไหล รวมไปถึงการติดตั้ง ต้องติดตั้งได้สะดวก ง่าย ทนทาน และคุ้มค่าแก่การลงทุน เป็นต้น
😜 ขั้นตอนการติดตั้ง
อุปกรณ์ระบบ เลทไอ
ในอดีตกำหนดให้ใช้เอทธิลีนกับต้นยางแก่ ให้ผลผลิตน้อย หรือ ต้นยางใกล้โค่น เท่านั้น แต่ระยะหลังนิยมใช้กับต้นยางแก่ที่หมดหน้ากรีดปกติ (ยางหน้าต่ำ) แต่ยังมีพื้นที่เปลือกยางด้านบนที่ยังไม่เคยกรีดมาก่อน (ยางหน้าสูง) เมื่อติดตตั้งอุปกรณ์เอทธิลีนจะทำให้ได้น้ำยางเพิ่มสูงขึ้นกว่าการกรีดยางหน้าปกติ
ต้นยางที่เหมาะสมแก่การใช้ฮอร์โมนเอทธิลีนคือ อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป แต่ระยะหลังๆ เริ่มมีงานทดลองของราชการ และเกษตรกรหัวก้าวหน้าเริ่มใช้เอทธิลีนกับต้นยางที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าสามารถใช้ได้ โดยต้นยางไม่ได้รับผลกระทบ ขณะที่ผลผลิตสูงขึ้นหลายเท่าจากปกติ
การติดตั้งอุปกรณ์เอทธิลีน
เริ่มต้นจาก เตรียมอุปกรณ์ติดตั้ง ประกอบด้วย ชุดอุปกรณ์ฝาครอบเหล็ก บล็อกตอก ค้อน และบันได (สำหรับติดตั้งยางหน้าสูง)
- เมื่อพิจารณาแล้วว่าต้นยางต้นไหนเหมาะสม ก็ให้ตั้งหน้ากรีด กว้างประมาณ 4 นิ้ว
- กำหนดตำแหน่งติดตั้งอุปกรณ์ โดยติดตั้งไว้ทางซ้ายของหน้ากรีด เพราะจะไม่เกะกะระหว่างกรีด หรืออาจจะติดตั้งไว้ต่ำกว่ารอยกรีดเล็กน้อย
- ก่อนตอกฝาครอบเหล็ก ควรขูดผิวเปลือกต้นยางบริเวณที่จะตอกให้เรียบเพื่อให้ฮอร์โมนไหลสู่เปลือกยางได้ง่ายขึ้น และป้องกันเอทธิลีนรั่วไหล
- ใส่กล่องฝาครอบเหล็กลงในบล็อกตอก แล้วใช้ค้อนตอกให้กล่องฝาครอบเหล็กติดกับเปลือกยางในบริเวณที่กำหนดลึกประมาณ 3 มม.สาเหตุที่ใช้บล็อกตอกเพื่อป้องกันการตอกลงไปกับหัวตอกโดยตรง จะทำให้หัวอุปกรณ์เสียหาย อีกทั้งยังเป็นการควบคุมไม่ให้ตอกลึกเกินไปจนเข้าเนื้อไม้
- เมื่อติดตั้งชุดอุปกรณ์เรียบร้อย จึงอัดเอทธิลีนเข้าไปยังสายยางชุดอุปกรณ์ประมาณต้นละ 40 ซีซี
- หลังอัดเอทธิลีนทิ้งไว้ประมาณ 24 ชั่วโมง จึงทำการเปิดกรีดในตอนเย็นตั้งแต่ 4 โมงเย็นเป็นต้นไป แล้วไปเก็บน้ำยางในช่วงเช้าของอีกวัน เพราะน้ำยางจะไหลนาน 13-15 ชม. ซึ่งต้องใช้ถ้วยรองน้ำยางใหญ่กว่าปกติ อย่างน้อยขนาด 2 ลิตรขึ้นไป สำหรับเก็บน้ำยางสด แต่ถ้าทำยางก้อนถ้วยต้องใช้ขนาด 3-5 ลิตร
- ระบบการกรีด ใช้วิธี กรีด 1 วัน เว้น 2 วัน
😜 ทำสวนยางเอทธิลีน ยืดอายุต้นยาง 50 ปี
การทำสวนยางด้วยเอทธิลีน
นอกจากเพิ่มผลผลิตน้ำยางแล้ว ยังสามารถลดขั้นตอนการทำงานลง เมื่อเปรียบเทียบกับการทำสวนยางระบบปกติ ที่สำคัญยังช่วยยืดอายุต้นยางได้มากกว่า
50 ปี ไม่ทำให้เนื้อไม้เสียหายโดยมีหลักฐานทางวิชาการอ้างอิง
การทำสวนยางเอทธิลีน
ช่วยยืดอายุต้นยางได้อย่างไรบ้าง...???
เริ่มจาก วันกรีด
ปกติการกรีดยางทั่วไปจะกรีด 2 วัน เว้น 1 วัน หรือบางรายอาจจะถี่กว่านั้น 3
วันเว้น 1 วัน เป็นต้น แต่ระบบกรีดสวนยางเอทธิลีน แนะนำให้กรีด 1 วัน เว้น 2 วัน เพราะปริมาณน้ำยางจะออกมาปริมาณมากต่อการกรีดหนึ่งครั้ง หรืออย่างน้อย 3 เท่าตัว
ต้นยางจึงจำเป็นต้องใช้เวลาพักฟื้นและสร้างน้ำยางนานกว่าระบบปกติ
ดังนั้นระยะเวลาการกรีดยางจึงน้อยลง เหลือเพียงแค่ 8-10 วัน/เดือน
กรีดยางหน้าสั้น 4 นิ้ว ไม่สิ้นเปลืองเปลือกยาง การกรีดยางปกติมักนิยมกรีด
ครึ่งต้น, 1 ใน 3 ของต้น และ
1 ใน 4 ของต้น ขึ้นอยู่กับพื้นที่ อย่างภาคอีสานนิยมการกรีดแบบครึ่งต้น และกรีดถี่
จึงทำให้หน้ายางหมดไว
แต่การทำสวนยางเอทธิลีน แนะนำให้กรีดหน้ากว้างเพียง 4 นิ้ว ซึ่งแต่การกรีดหน้ายางสั้นไม่ส่งผลต่อปริมาณน้ำยาง เนื่องจากมีเอทธิลีนกระตุ้นให้น้ำยางไหลนานขึ้นกว่าปกติ
อีกทั้งเมื่อระยะเวลากรีดน้อยลง เพียง 8-10 วัน/เดือน ทำให้สิ้นเปลืองหน้ายางน้อยมาก จึงเป็นการยืดอายุต้นยางได้อย่างดี ต้นยางอาจให้ผลผลิตได้นานถึง 50 ปี
โดยไม่ทำให้เนื้อไม้เกิดความเสียหาย ชาวสวนยางจึงไม่ต้องโค่นยางปลูกใหม่กันบ่อยๆ
ทั้งนี้ระบบการทำงานของสวนยางเอทธิลีนต่างกับสวนยางปกติ คือ ช่วงเวลาการกรีด จากที่ต้องกรีดตั้งแต่ 4 ทุ่มเป็นต้นไป ก็เปลี่ยนมากรีดช่วง 4
โมงเย็น คนกรีดยางจึงไม่ต้องกรีดยางกลางคืน
สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ และเก็บน้ำยางในช่วงเช้า
😜 ต้นทุน
อุปกรณ์ระบบเลทไอ ประหยัดและคุ้มค่า
เมื่อเห็นผลของข้อดีของการทำสวนยางเอทธิลีนแล้ว ลองมาดูว่าการลงทุนติดตั้งอุปกรณ์เอทธิลีนต้องใช้เงินทุนเท่าไหร่...???
อุปกรณ์ติดตั้งเอทธิลีนระบบเลทไอ ราคาเพียง 25
บาท/ชุด ซึ่งเป็นราคาถูกและคุ้มค่ามากที่สุด หรือลงททุนเพียงไร่ละ 1,500 บาท (ยาง 60 ต้นไร่)
ส่วนฮอร์โมนเอทธิลีน เลทไอราคากระป๋องละ 68 บาท/กระป๋อง
การอัดเอทธิลีนจะอัดครั้งละ 40 ซีซี
และจะอัดหลังการกรีด 2 ครั้ง หรือ 2 มีด ต้นทุนเอทธิลีนต้นละประมาณ 40 สตางค์เท่านั้น
หลังจากติดตั้งอุปกรณ์ประมาณ 2-3 เดือน
ต้นยางจะเกิดการขยายตัวของเปลือก อาจจะเกิดรอยรั่วระหว่างฝาครอบเหล็กกับเปลือกยาง จำเป็นต้องย้ายตำแหน่งตอกอุปกรณ์ โดยเลื่อน ต่ำลงมาจากจุดเดิมเล็กน้อย
เรื่องที่ต้องยึดเป็น “กฎเหล็ก” ของสวนยางเอทธิลีนคือ การบำรุงรักษาต้นยาง เนื่องจากปริมาณน้ำยางออกมาจำนวนมาก การใส่ปุ๋ยจึงต้องสัมพันธ์และสอดคล้องกัน จากเดิมที่ให้ปุ๋ย ปีละ 2 ครั้ง อาจจะเพิ่มปริมาณมากขึ้น หรือจะเลือกใส่ปุ๋ยถี่ขึ้น โดยอาจจะแบ่งใส่เป็นปีละ 3 ครั้ง
โดยใช้ปุ๋ยปริมาณเท่าเดิม ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของพื้นที่
😜 บทสรุปข้อดีจากการทำสวนยางเอทธิลีน
ระบบเลทไอ
👍เพิ่มผลผลิตมากกว่า
300 % ต่อครั้งกรีด (มากกว่า 3 เท่า)
👍 ประหยัดเปลือกยางโดยกรีดหน้ายางยาวแค่
4 นิ้ว จึงยืดระยะเวลาการกรีดยางยาวนานเกิน 50 ปี
👍ลดเวลาในการกรีด จึงมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น
สุขภาพแจ่มใสแข็งแรง
👍ไม่ทำให้ต้นยางเป็นโรคเปลือกแห้ง เนื่องจากกรีดน้อยลง ต้นยางมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น
👍เนื้อไม้ไม่เสีย
ขายได้ราคา
👍รับรองโดยสถาบันการยางมาเลเซีย
เลขที่สิทธิบัตร 22925
😜 เสียงจากชาวสวนยางหัวก้าวหน้า
เพิ่มผลผลิตยางด้วยเอทธิลีนระบบเลทไอ
สวนผู้ใหญ่จักรชัย
ไสยรินทร์ อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี
ผมผู้ใหญ่จักรชัยคนบ้านนาเดิม ผมได้ใช้อุปกรณ์ระบบ LET- I มาแล้วเป็นปีที่ 15
สภาพต้นยางตอนนี้ยังปกติดีทุกอย่าง ตอนนี้มั่นใจ 100% ว่าการใช้ฮอร์โมนเอทธิลีนไม่มีผลเสียต่อต้นยางแน่นอน ผลผลิตตอนนี้ผมใช้อุปกรณ์ตลอดระยะที่ผ่านมาทำรายได้ให้ผมมหาศาล โทรศัพท์ 08-9723-8041
สวนคุณจักรณัฐพันธ์ กิจประสาน (ซ้ายสุด) อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
ผมใช้อุปกรณ์ระบบ LET-
I มาเป็นปีที่ 6 แล้ว แต่ก่อนหน้านั้นผมมีประสบการณ์ใช้เอทธิลีนมานานกว่า
12 ปี ผมมั่นใจระบบการอัดฮอร์โมนระบบ LET- I
ลงทุนแค่ครั้งเดียวใช้อุปกรณ์ได้หลายปี ผลผลิตที่ได้รับเฉลี่ย 750-800 กก./ไร่/ปี ผมใช้อุปกรณ์ที่สวนของตัวเองและเกษตรกรที่อยู่รอบสวนประมาณ 100,000 กว่าต้น ผลผลิตและรายได้ที่ผมได้รับมันคุ้มค่ามาก โทรศัพท์ 08-1477-7644
สวนคุณศุภกร เกิดผลทวี (โกมาตี่) อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
ผมได้ใช้อุปกรณ์ระบบ LET- I
กับต้นยางเริ่มเปิดกรีด (5 ปีครึ่ง) และเก็บข้อมูลว่าจะมีผลอย่างไรกับต้นยาง เพราะที่ผ่านมามีการแนะนำให้ใช้กับต้นยางอายุ 15 ปี ขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันผมใช้ LET- I กับต้นยางเริ่มเปิดกรีดติดต่อกันเป็นปีที่ 6 แล้ว ต้นยางยังสมบูรณ์ดี และให้น้ำยางสูงกว่าระบบปกติ ผมจึงมั่นใจระบบการอัดฮอร์โมนระบบ LET- I
ลงทุนแค่ครั้งเดียวใช้อุปกรณ์ได้หลายปีผลผลิตที่ผมใช้อุปกรณ์ที่สวนประมาณ 3,000
กว่าต้นผลผลิตและรายได้ที่ผมได้รับมันคุ้มค่า กว่าการทำสวนยางปกติ โทรศัพท์ 08-1797-7359
สวนคุณสมคิด โพธิ์เพชร อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ผมได้ใช้อุปกรณ์ระบบ LET-I ต่อเนื่องมาเป็นปี 15
แล้วประสบการณ์กับการใช้เอทธิลีนมานานผมมั่นใจระบบการอัดฮอร์โมนระบบ LET-I
ลงทุนแค่ครั้งเดียวใช้อุปกรณ์ได้หลายปีผลผลิตที่ผมได้รับต่อไร่/ต่อปี
700 กก.(เฉลี่ย) ผมใช้อุปกรณ์ที่สวนประมาณ
10,000 กว่าต้น ผลผลิตและรายได้ที่ผมได้รับมันคุ้มค่าจริงๆ
โทรศัพท์ 08-7465-2988
สื่อมวลชนและเกษตรกรจากประเทศจีนเข้าเยี่ยมชมแปลงยางที่ใช้ฮอร์โมนเอทธีลีน
ระบบเลทไอ ใน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
สื่อมวลชนและเกษตรกรจากประเทศจีนเข้าเยี่ยมชมแปลงยางที่ใช้ฮอร์โมนเอทธีลีน ระบบเลทไอ ใน อ.เมือง จ.พัทลุง
ผ่าพิสูจน์ต้นยางที่ใช้เอธิลีนอย่างต่อเนื่อง 15 ปี ไม่ส่งผลกระทบกับเนื้อไม้แต่อย่างใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น