เมืองตรัง ต้นแบบ “ยางแผ่นพรีเมียม” พร้อมขยายเครือข่ายทั้งจังหวัด
นอกจากประเทศไทยจะเป็น “เอก”
ของโลก ด้านการผลิตและส่งออกยางพาราอันดับหนึ่งของโลกแล้ว
เรายังมีชื่อเสียงเรื่องการผลิตยางคุณภาพ
หนึ่งในยางคุณภาพขึ้นชื่อของไทย คือ
ยางแผ่นรมควัน ยางประเภทนี้ต้องใช้ความพิถีพิถันในการผลิต โดยเฉพาะความสะอาดต้องใช้ความละเอียดทุกขั้นตอน
แต่เมื่อเทรนด์ความต้องการใช้วัตถุดิบยางที่เปลี่ยนไป
ทำให้ “ยางแท่ง” เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ประกอบกับภาวะราคายางตกต่ำเกษตรกรส่วนใหญ่จึงหันมาผลิตยางก้อนถ้วยป้อนอุตสาหกรรมยางแท่งเป็นหลัก
ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่าการผลิตยางแผ่น เป็นต้น
หากแต่สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นคุณภาพ
ยังคงมีความต้องการยางใช้แผ่นรมควัน เช่น ล้อยางรถยนต์ พื้นรองเท้า และสายพานต่างๆ
เป็นต้น
ขณะที่บริษัทผู้ผลิตยางเองก็ประสบปัญหาเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบยางแผ่นรมควัน
มีคุณภาพไม่สม่ำเสมอ ซึ่งจะมีผลต่อการควบคุมการผลิตสินค้า ภายหลังจึงมีบางบริษัทจับมือกับสหกรณ์ผู้ผลิตยาง
เพื่อควบคุมการผลิตวัตถุดิบตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งจะทำให้ได้คุณภาพตามความต้องการ
พร้อมกับซื้อยางราคาสูง ดังตัวอย่างของ กลุ่มบริษัท IRC กับ สหกรณ์กองทุนสวนยางคลองปาง
จำกัด ใน จ.ตรัง เป็นต้น
สอดคล้องกับ นโยบายของ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ที่มุ่งเน้นให้กลุ่มเกษตรกรหันมาผลิตยางคุณภาพ และมีการกำหนดมาตรฐานขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้ยางมีความมั่นใจ และพร้อมที่จะซื้อยางในราคาสูง
เรื่องนี้ ดร.ธีธัช สุขสะอาด
ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า กยท. มีต้องการพัฒนาคุณภาพยางพาราของไทยทั้งระบบ
ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแปรรูปขั้นกลางเป็นยางแผ่นรมควัน ซึ่งในแต่ละปีมีปริมาณการส่งออกยางแผ่นรมควันหลายล้านบาท
อย่างในปี 2558 ที่ผ่านมา
ประเทศไทยส่งออกยางแผ่นรมควันประมาณ 6.4 แสนตัน
คิดเป็นมูลค่า 35,628 ล้านบาท
ทั้งนี้เพื่อให้คุณภาพของยางแผ่นรมควันได้มาตรฐานสากล
กยท.จึงมีการออกใบรับรองมาตรฐาน GMP ให้กับโรงงานผลิตยางแผ่นรมควัน
โดยผ่านกระบวนการตรวจสอบตามมาตรฐานสินค้าเกษตร มกษ. 5906-2556 เรื่องการปฏิบัติที่ดีสำหรับการผลิตยางแผ่นรมควัน (GOOD
MANUFACTURING PRACTICES FOR RIBBED SMOKED SHEET) จากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ในเรื่องอุตสาหกรรมยาง ของ กยท.
เริ่มตั้งแต่น้ำยางที่กรีดลงถ้วย ภาชนะที่ใส่ การรีดยาง การรมควัน คัดชั้นคุณภาพ
การบรรจุ และขนส่ง ทุกขั้นตอนจะถูกควบคุมอย่างละเอียด
ขณะนี้ กยท. ดูแลและส่งเสริมการดำเนินงานธุรกิจแปรรูปด้วยการสร้างโรงอบ/รมยางของสหกรณ์กองทุนสวนยาง ทั่วประเทศ จำนวน 176 แห่ง และ จังหวัดตรัง เป็นหนึ่งในลำดับต้นๆ ของประเทศที่มีสหกรณ์ดำเนินธุรกิจในการแปรรูปยางแผ่นรมควันมากถึงจำนวน 30 สหกรณ์ นับว่าเป็นจังหวัดตัวอย่างที่เกษตรกรและสถาบันเกษตรมีความต้องการยกระดับสินค้าของตนเอง พร้อมรับเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบตามมาตรฐาน GMP ยางแผ่นรมควัน
ล่าสุด กยท.
ได้ให้การตรวจรับรองมาตรฐาน GMP โรงงานยางแผ่นรมควันและผ่านการรับรองแล้ว จำนวน 5 สหกรณ์ ใน จ.ตรัง ได้แก่
สหกรณ์กองทุนสวนยางโพธิ์โทน จำกัด
สหกรณ์กองทุนสวนยางวังคีรี จำกัด
สหกรณ์กองทุนสวนยางคลองปาง จำกัด
สหกรณ์กองทุนสวนยางหนองบัว จำกัด
และสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านหนองศรีจันทร์
จำกัด
ทั้ง 5 สหกรณ์ดังกล่าว ได้ใช้เวลาในการประเมินอย่างเข้มงวดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 เดือน ส่งผลให้ได้แผ่นยางมีมาตรฐานใกล้เคียงกัน ทั้งความกว้าง ความยาว ความหนา และน้ำหนัก รวมทั้งลักษณะภายนอกอื่นๆ เป็นการยกระดับมาตรฐานยางแผ่นรมควันเกรดพรีเมียม และยังคงมีสหกรณ์กองทุนสวนยางอีก 25 สหกรณ์ที่พร้อมจะให้ทาง กยท. เข้าตรวจให้การรับรองมาตรฐาน GMP ตามแนวทางที่จะให้ทั้งจังหวัดทำยางเกรดพรีเมียมมาตรฐาน GMP
ทั้งนี้การผลักดันโรงงานผลิตยางแผ่นรมควันและโรงงานยางอัดก้อนให้ได้ตามมาตรฐาน GMP เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางจะได้รับประโยชน์ทั้งในเรื่องผลิตยางที่มีคุณภาพดี ภายใต้โรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล สามารถต่อรองราคาสินค้าในราคาที่สูงขึ้นได้ และยังส่งผลถึงผู้ประกอบการที่รับซื้อยางก็จะมีความมั่นใจในกระบวนการผลิต และการจัดเก็บ พร้อมทั้งมีความสะดวกในการรับซื้อมากขึ้น ซึ่งทาง กยท. จะเข้าไปตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เกษตรกรรักษาคุณภาพยางให้ได้ตามมาตรฐานพรีเมียมที่กำหนดไว้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น