นาทีนี้ใครที่พร่ำบอก หรือรณรงค์ให้เกษตรกรทำปาล์มคุณภาพ ตัดปาล์มสุก
เปอร์เซ็นต์น้ำมันสูง แล้วจะขายได้ราคาดี คงน้ำท่วมปาก
ขณะที่หน่วยงานรัฐที่สนับสนุนเกษตรกรทำปาล์มคุณภาพ คงรีบเก็บนโยบายใส่ลิ้นชัก
เมื่อเกษตรกรจำนวนหนึ่งใน จ.กระบี่ ที่เดินแนวทางทำปาล์มคุณภาพมาตลอดพิสูจน์ประจักษ์แล้วเมื่อเร็วๆ
นี้ว่า โรงงานกดเปอร์เซ็นต์น้ำมัน และกดราคา ซึ่งเป็นการกดขี่ความเป็นธรรมด้านการซื้อขาย
และหนักกว่านั้น คือ ไม่รับซื้อปาล์มสุกทุกทะลาย ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของจ.กระบี่
ที่ชูความเป็น เมืองปาล์มน้ำมันต้นแบบของประเทศ
เรื่องนี้กลายเป็น ท็อค ออฟ เดอะ ทาวน์ ในเฟซบุ๊ค กลุ่มคนปลูกปาล์มน้ำมัน
และกลุ่มปาล์มน้ำมัน ที่มีสมาชิกรวมกันเกือบ 40,000 คน มีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง รวมถึงวิจารณ์โรงงานปาล์มน้ำมัน
2 โรงงานที่ปฏิเสธรับซื้อปาล์มคุณภาพ อย่างรุนแรง
ที่มาของเหตุการณ์นี้เริ่มต้นจากกรณีของ นายวิโรช เพ็ชรร่วง
ถูกโรงงานยูนิวานิช สาขาลำทับ ปฏิเสธซื้อปาล์ม เหตุเพราะก่อนหน้านี้เกษตรกรรายนี้มักจะถ่ายภาพราคาหน้าโรงงานลงในเฟซบุ๊คกลุ่มคนรักปาล์มน้ำมัน
ซึ่งโรงงานให้เหตุผลว่าทำให้บริษัท ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่
และอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เสียชื่อเสียง
แต่ปรากฏว่า โรงงานรับซื้อ ตีเปอร์เซ็นต์น้ำมันให้เพียง 19
เปอร์เซ็นต์ และซื้อในราคาราคา 4.75
บาท ทั้งๆ ที่ ป้ายราคาหน้าโรงงาน ติดไว้ 5.50 บาท เห็นได้ว่าเป็นการเอาเปรียบเกษตรกรตั้งแต่ตีเปอร์เซ็นต์
และราคาที่รับซื้อไม่ตรงกับป้ายที่ขึ้นไว้ นายชโยดลได้ให้รายละเอียดว่า
ตอนแรกพนักงานไม่ได้ระบุเปอร์เซ็นต์น้ำมันในบิล ก่อนจะแจ้งไปยังพาณิชย์จังหวัด
พนักงานจึงยอมลงตัวเลขน้ำมันในบิลอย่างไม่เต็มใจ
และครั้งล่าสุดกลุ่มเกษตรกรที่นำโดย
นายชโยดม นำปาล์มสุกคุณภาพตามหลักวิชาการ ถือว่าเป็นปาล์มคุณภาพดี ใส่รถกระบะบรรทุกจำนวน
7 คัน ไปขายโรงงานสหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม อ.เมือง จ.กระบี่ แต่ปาล์มทั้งหมดถูกปฏิเสธรับซื้อจากโรงงาน
โดยผู้จัดการโรงงานออกมาชี้แจ้งเหตุผลว่า
ปกติโรงงานไม่ได้รับซื้อปาล์มตามคุณภาพ แต่จะซื้อแบบคละเปอร์เซ็นต์
ยกเว้นปาล์มดิบจะไม่รับซื้อ เนื่องจากระบบหีบของโรงงานไม่สามารถวัดเปอร์เซ็นต์น้ำมันของเกษตรกรแต่ละรายได้
แต่จะยึดเกณฑ์เปอร์เซ็นต์น้ำมันเฉลี่ยของโรงงานที่หีบได้ในแต่ละวัน
โดยเฉลี่ยของโรงงานหีบได้แค่ 16.4% เท่านั้น แต่ก็รับซื้อปาล์มจากเกษตรกร 17% ราคา 4.35 บาท/กก. แต่จะบวกเพิ่มให้กับเกษตรกรที่นำปาล์มสุกดีมาขาย
ในราคา 4.50 บาท
แต่ก็มีการพูดกันว่าสาเหตุที่โรงงานไม่รับซื้อปาล์มของเกษตรกรกลุ่มนี้เป็นผลจาก
2 เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เพื่อต้องการดิสเครดิตโรงงาน
หากแต่ในมุมของเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่ต้องการสร้างความเป็นธรรมในอุตสาหกรรมปาล์มของไทย
ซึ่งสิ่งแรกที่ต้องทำก็คือ การตัดปาล์มคุณภาพ เปอร์เซ็นต์น้ำมันสูง
ซึ่งพวกเขาทำตามนโยบายของจังหวัด แต่สุดท้ายโรงงานกลับรับซื้อแบบคละคุณภาพ
และให้ราคาต่ำ
“จังหวัดกระบี่เรารณรงค์ตัดปาล์มสุกทุกทะลาย
มีลูกร่วง 10 ผลขึ้นไป พวกเราก็นัดเกษตรกรกันนำปาล์มสุกมาขาย หวังว่าจะได้ราคาดี
และอยากให้เป็นตัวอย่างกับเกษตรกรเพื่อร่วมกันตัดปาล์มสุก แต่โรงงานกลับไม่รับซื้อ
เลยแปลกใจว่าปาล์มคุณภาพ เปอร์เซ็นต์น้ำมันสูงจึงไม่รับซื้อ แต่จะซื้อแบบสุกๆ ดิบๆ
เพื่อให้เปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำ แล้วอย่างนี้เราจะพัฒนาปาล์มไทยได้อย่างไร แล้วเกษตรกรจะตัดปาล์มสุกไปทำไม”
นายชโยดม กล่าว
ในมุมหนึ่งต้องยอมรับว่า
2 เหตุการณ์หลังที่มีนายชโยดล เป็นแกนนำ มีการเตรียมวางแผนไว้ล่วงหน้าอย่างดี
และก็เชื่อว่ามีวัตถุประสงค์อะไร โรงงานเองก็มองเห็นเช่นกันว่าเกษตรกรกลุ่มนี้ต้องการอะไร
จึงเป็นเหตุผลที่โรงงานไม่รับซื้อปาล์ม ทั้งๆ เป็นปาล์มสุกคุณภาพ
หากแต่การตระเตรียมของกลุ่มเกษตรกรนั้น
บริสุทธิ์ ยืนอยู่บนหลักของการเรียกร้องความเป็นธรรมด้านการซื้อขายปาล์มน้ำมัน
และต้องการฉายให้เห็นภาพกลไกการรับซื้อปาล์มของโรงงาน ซึ่งพวกเขายืนยันว่าเกษตรกรถูกเอารัดเอาเปรียบ
เหยียบย่ำเกษตรกรมาโดยตลอดหลายสิบปี และจะเป็นเช่นนี้ไปตลอดถ้าไม่ได้รับการปฏิวัติ
ซึ่งที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าการรณรงค์จากหน่วยงานของรัฐล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
เป็นเพียงแค่นโยบายสวยหรู เพราะโรงงานไม่เล่นด้วย
แต่ผู้ปฏิวัติที่มีพลังมากที่สุดก็คือเกษตรกรชาวสวนปาล์ม
และตัวอย่างของเกษตรกรใน จ.กระบี่ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว
ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าจะถูกส่องขยายให้เป็นเรื่องใหญ่นับจากนี้แน่นอน
แล้วลองนึกภาพดูว่า
ถ้าเกิดกลุ่มเกษตรกรแบบ จ.กระบี่
นำปาล์มคุณภาพไปหน้าโรงงานปาล์มน้ำมันทั่วประเทศพร้อมๆ กัน จะเกิดอะไรขึ้น
มันจะเกิดพลังยิ่งใหญ่พอที่จะปฏิวัติปาล์มน้ำมันของประเทศเลยเชียวล่ะ ไม่เชื่อก็ลองดู...!!!
อ้างอิง
เฟซบุ๊ค คนปลูกปาล์มน้ำมัน
มันจะเกิดพลังยิ่งใหญ่พอที่จะปฏิวัติปาล์มน้ำมันของประเทศเลยเชียวล่ะ ไม่เชื่อก็ลองดู...!!!
อ้างอิง
เฟซบุ๊ค คนปลูกปาล์มน้ำมัน
Advertising
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น