ปาล์มน้ำมัน

[ปาล์มน้ำมัน][bsummary]

ยางพารา

[ยางพารา][bsummary]

เทคนิคจากสวน

[เทคนิคจากสวน][twocolumns]

NEWS

[News][bleft]

พลังของชาวสวนปาล์ม จะปฏิวัติปาล์มน้ำมันไทย

นาทีนี้ใครที่พร่ำบอก หรือรณรงค์ให้เกษตรกรทำปาล์มคุณภาพ ตัดปาล์มสุก เปอร์เซ็นต์น้ำมันสูง แล้วจะขายได้ราคาดี คงน้ำท่วมปาก ขณะที่หน่วยงานรัฐที่สนับสนุนเกษตรกรทำปาล์มคุณภาพ คงรีบเก็บนโยบายใส่ลิ้นชัก

เมื่อเกษตรกรจำนวนหนึ่งใน จ.กระบี่ ที่เดินแนวทางทำปาล์มคุณภาพมาตลอดพิสูจน์ประจักษ์แล้วเมื่อเร็วๆ นี้ว่า โรงงานกดเปอร์เซ็นต์น้ำมัน และกดราคา ซึ่งเป็นการกดขี่ความเป็นธรรมด้านการซื้อขาย และหนักกว่านั้น คือ ไม่รับซื้อปาล์มสุกทุกทะลาย ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของจ.กระบี่ ที่ชูความเป็น เมืองปาล์มน้ำมันต้นแบบของประเทศ

เรื่องนี้กลายเป็น ท็อค ออฟ เดอะ ทาวน์ ในเฟซบุ๊ค กลุ่มคนปลูกปาล์มน้ำมัน และกลุ่มปาล์มน้ำมัน ที่มีสมาชิกรวมกันเกือบ 40,000 คน มีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง รวมถึงวิจารณ์โรงงานปาล์มน้ำมัน 2 โรงงานที่ปฏิเสธรับซื้อปาล์มคุณภาพ อย่างรุนแรง

ที่มาของเหตุการณ์นี้เริ่มต้นจากกรณีของ นายวิโรช เพ็ชรร่วง ถูกโรงงานยูนิวานิช สาขาลำทับ ปฏิเสธซื้อปาล์ม เหตุเพราะก่อนหน้านี้เกษตรกรรายนี้มักจะถ่ายภาพราคาหน้าโรงงานลงในเฟซบุ๊คกลุ่มคนรักปาล์มน้ำมัน ซึ่งโรงงานให้เหตุผลว่าทำให้บริษัท ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ และอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เสียชื่อเสียง 
ไม่กี่วันหลังจากนั้น เกิดกรณีคล้ายๆ กัน กับนายชโยดม สุวรรณวัฒนะ แกนนำคนสำคัญในการเรียกร้องราคาปาล์มของ จ.กระบี่ ตัดปาล์มคุณภาพตามหลักวิชาการที่ จ.กระบี่ รณรงค์ คือ เป็นปาล์มสุกมีลูกร่วง 10 เม็ดขึ้นไปทุกทะลาย ก้านทะลายยาวไม่เกิน 10 ซม.จำนวน 66 ทะลาย พร้อมกับเขียนหมายเลข และให้เจ้าหน้าที่เกษตรกรจังหวัดกระบี่มาประเมินว่าเปอร์เซ็นต์น้ำมันไม่น่าจะต่ำกว่า 22% จัดอยู่ในกลุ่มปาล์มคุณภาพชั้นที่ 1  ก่อนจะนำไปขายโรงงานยูนิวานิช สาขาอ่าวลึก

แต่ปรากฏว่า โรงงานรับซื้อ ตีเปอร์เซ็นต์น้ำมันให้เพียง 19 เปอร์เซ็นต์ และซื้อในราคาราคา 4.75 บาท ทั้งๆ ที่ ป้ายราคาหน้าโรงงาน ติดไว้ 5.50 บาท เห็นได้ว่าเป็นการเอาเปรียบเกษตรกรตั้งแต่ตีเปอร์เซ็นต์ และราคาที่รับซื้อไม่ตรงกับป้ายที่ขึ้นไว้ นายชโยดลได้ให้รายละเอียดว่า ตอนแรกพนักงานไม่ได้ระบุเปอร์เซ็นต์น้ำมันในบิล ก่อนจะแจ้งไปยังพาณิชย์จังหวัด พนักงานจึงยอมลงตัวเลขน้ำมันในบิลอย่างไม่เต็มใจ 
หลังจากนั้นนายชโยดม จะนำหลักฐานไปแจ้งความยังสถานีตำรวจอำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่ เพื่อให้เป็นคดีตัวอย่าง ว่าเกษตรกรถูกกดขี่ข่มเหงไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมจะเดินหน้าต่อสู้เรื่องนี้จนถึงที่สุด  ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ให้ลงประจำวันและรับเป็นคดีฉ้อโกง

และครั้งล่าสุดกลุ่มเกษตรกรที่นำโดย นายชโยดม นำปาล์มสุกคุณภาพตามหลักวิชาการ ถือว่าเป็นปาล์มคุณภาพดี ใส่รถกระบะบรรทุกจำนวน 7 คัน ไปขายโรงงานสหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม อ.เมือง จ.กระบี่ แต่ปาล์มทั้งหมดถูกปฏิเสธรับซื้อจากโรงงาน

โดยผู้จัดการโรงงานออกมาชี้แจ้งเหตุผลว่า ปกติโรงงานไม่ได้รับซื้อปาล์มตามคุณภาพ แต่จะซื้อแบบคละเปอร์เซ็นต์ ยกเว้นปาล์มดิบจะไม่รับซื้อ เนื่องจากระบบหีบของโรงงานไม่สามารถวัดเปอร์เซ็นต์น้ำมันของเกษตรกรแต่ละรายได้ แต่จะยึดเกณฑ์เปอร์เซ็นต์น้ำมันเฉลี่ยของโรงงานที่หีบได้ในแต่ละวัน โดยเฉลี่ยของโรงงานหีบได้แค่ 16.4% เท่านั้น แต่ก็รับซื้อปาล์มจากเกษตรกร 17% ราคา 4.35 บาท/กก. แต่จะบวกเพิ่มให้กับเกษตรกรที่นำปาล์มสุกดีมาขาย ในราคา 4.50 บาท

แต่ก็มีการพูดกันว่าสาเหตุที่โรงงานไม่รับซื้อปาล์มของเกษตรกรกลุ่มนี้เป็นผลจาก 2 เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เพื่อต้องการดิสเครดิตโรงงาน

หากแต่ในมุมของเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่ต้องการสร้างความเป็นธรรมในอุตสาหกรรมปาล์มของไทย ซึ่งสิ่งแรกที่ต้องทำก็คือ การตัดปาล์มคุณภาพ เปอร์เซ็นต์น้ำมันสูง ซึ่งพวกเขาทำตามนโยบายของจังหวัด แต่สุดท้ายโรงงานกลับรับซื้อแบบคละคุณภาพ และให้ราคาต่ำ

“จังหวัดกระบี่เรารณรงค์ตัดปาล์มสุกทุกทะลาย มีลูกร่วง 10 ผลขึ้นไป พวกเราก็นัดเกษตรกรกันนำปาล์มสุกมาขาย หวังว่าจะได้ราคาดี และอยากให้เป็นตัวอย่างกับเกษตรกรเพื่อร่วมกันตัดปาล์มสุก แต่โรงงานกลับไม่รับซื้อ เลยแปลกใจว่าปาล์มคุณภาพ เปอร์เซ็นต์น้ำมันสูงจึงไม่รับซื้อ แต่จะซื้อแบบสุกๆ ดิบๆ เพื่อให้เปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำ แล้วอย่างนี้เราจะพัฒนาปาล์มไทยได้อย่างไร แล้วเกษตรกรจะตัดปาล์มสุกไปทำไม” นายชโยดม กล่าว 

ในมุมหนึ่งต้องยอมรับว่า 2 เหตุการณ์หลังที่มีนายชโยดล เป็นแกนนำ มีการเตรียมวางแผนไว้ล่วงหน้าอย่างดี และก็เชื่อว่ามีวัตถุประสงค์อะไร โรงงานเองก็มองเห็นเช่นกันว่าเกษตรกรกลุ่มนี้ต้องการอะไร จึงเป็นเหตุผลที่โรงงานไม่รับซื้อปาล์ม ทั้งๆ เป็นปาล์มสุกคุณภาพ

หากแต่การตระเตรียมของกลุ่มเกษตรกรนั้น บริสุทธิ์ ยืนอยู่บนหลักของการเรียกร้องความเป็นธรรมด้านการซื้อขายปาล์มน้ำมัน และต้องการฉายให้เห็นภาพกลไกการรับซื้อปาล์มของโรงงาน ซึ่งพวกเขายืนยันว่าเกษตรกรถูกเอารัดเอาเปรียบ เหยียบย่ำเกษตรกรมาโดยตลอดหลายสิบปี และจะเป็นเช่นนี้ไปตลอดถ้าไม่ได้รับการปฏิวัติ ซึ่งที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าการรณรงค์จากหน่วยงานของรัฐล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เป็นเพียงแค่นโยบายสวยหรู เพราะโรงงานไม่เล่นด้วย
แต่ผู้ปฏิวัติที่มีพลังมากที่สุดก็คือเกษตรกรชาวสวนปาล์ม และตัวอย่างของเกษตรกรใน จ.กระบี่ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าจะถูกส่องขยายให้เป็นเรื่องใหญ่นับจากนี้แน่นอน

แล้วลองนึกภาพดูว่า ถ้าเกิดกลุ่มเกษตรกรแบบ จ.กระบี่ นำปาล์มคุณภาพไปหน้าโรงงานปาล์มน้ำมันทั่วประเทศพร้อมๆ กัน จะเกิดอะไรขึ้น  

มันจะเกิดพลังยิ่งใหญ่พอที่จะปฏิวัติปาล์มน้ำมันของประเทศเลยเชียวล่ะ ไม่เชื่อก็ลองดู...!!!

อ้างอิง
เฟซบุ๊ค คนปลูกปาล์มน้ำมัน


Advertising



ลงโฆษณาโทร.08-6335-2703

ไม่มีความคิดเห็น:

บทความที่ได้รับความนิยม