ปัจจุบันการใช้ปุ๋ยอินทรีย์กับพืชเป็นที่สนใจของเกษตรกรทั่วไป
ควรใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมีเพื่อให้ดินคงความอุดมสมบูรณ์ และเพิ่มประสิทธิภาพการดูดธาตุอาหารของพืช
โดยปกติปุ๋ยอินทรีย์จะมี 3 ชนิดใหญ่ๆ
ชนิดแรกได้แก่ ปุ๋ยคอก เป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้จากมูลสัตว์
ชนิดที่สองคือปุ๋ยพืชสด เป็นปุ๋ยที่ได้จากการไถกลบพืช ส่วนใหญ่ จะเป็นพืชตระกูลถั่ว
และชนิดที่สามคือปุ๋ยหมักเป็นปุ๋ยที่ได้จากการสลายตัวของวัสดุอินทรีย์ เช่น เศษพืช/สัตว์
ปัจจัยที่จำเป็นในการผลิตปุ๋ยหมัก
1 คุณภาพของวัสดุที่นำมาใช้ทำปุ๋ยหมัก
: วัสดุที่นำมาใช้ต้องมีปริมาณธาตุอาหารพืชสูงพอสมควร
และมีค่าสัดส่วนของคาร์บอนกับไนโตรเจน (C/N ratio) ไม่สูงนัก เพื่อให้จุลินทรีย์สามารถย่อยสลายวัสดุอินทรีย์
ดังกล่าวได้ง่าย เช่น ขี้เลื่อยมีค่า C/N ratio ประมาณ
500 จะถูกจุลินทรีย์ย่อยเพื่อให้เป็นปุ๋ยหมักได้ยากกว่าแกลบ ซึ่งมีค่า
C/N ratio เพียง 64 ดังนั้นถ้าจะให้ขี้เลื่อยย่อยได้ง่ายต้องลดค่า
C/N ratio โดยการเพิ่ม N ลงไปในระหว่างการหมัก
เพื่อให้ค่า C/N ratio ลดลง
2 จุลินทรีย์ที่ใช้ย่อย
: ควรเป็นจุลินทรีย์ที่มีความเฉพาะกับวัตถุดิบที่ใช้ทำปุ๋ยหมัก
เพื่อให้การย่อยสลายเป็นไปอย่างรวดเร็ว [ในการทำปุ๋ยหมักบางครั้งจำเป็นต้องเพิ่มอาหารให้กับจุลินทรีย์ด้วย
เช่น มีการผสมราข้าวหรือมูลสัตว์ (ที่มีไนโตรเจนสูง)
]
3 กระบวนการระหว่างการหมัก
: ในการผลิตปุ๋ยหมักต้องมีการจัดการที่เหมาะสม
เช่น การควบคุมความชื้น การควบคุมอุณหภูมิ ดังนั้นต้องพลิกกองเพื่อลดอุณหภูมิ และให้น้ำเพื่อรักษาระดับความชื้นที่เหมาะสม
วัสดุเหลือใช้จากโรงงานสกัดปาล์มน้ำมัน
ในกระบวนการสกัดน้ำมันปาล์มพบว่า วัตถุดิบทะลายปาล์มสด 1,000 กิโลกรัม จะให้น้ำมันประมาณ
200 กิโลกรัม ทะลายเปล่าประมาณ 220 กิโลกรัม เมล็ดในประมาณ
50 กิโลกรัม กะลาประมาณ 55 กิโลกรัม กากตะกอนและน้ำประมาณ
475 กิโลกรัม
จะเห็นว่าในกระบวนการสกัดน้ำมันปาล์ม
มีส่วนที่เหลือจากกระบวนการสกัดน้ำมันมากกว่าส่วนที่นำไปใช้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องนำวัสดุเหลือเหล่านั้นมาใช้เป็นประโยชน์
ข้อได้เปรียบในการทำปุ๋ยหมักจากวัสดุเหลือใช้ในโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม
1 วัสดุที่นำมาใช้ทำปุ๋ยมีปริมาณมาก
และคุณสมบัติของวัตถุดิบค่อนข้างคงที่
2 วัตถุดิบมีตลอดทั้งปี
แม้ว่าบางช่วงจะมีปริมาณไม่มากนัก แต่ก็ยังมีอย่างต่อเนื่อง
3 วัตถุดิบมีคุณสมบัติเหมาะสมในการทำปุ๋ยหมัก
ซึ่งในการทำปุ๋ยหมักจะใช้ทะลายเปล่าซึ่งมีค่า C/N ratio ประมาณ
54 pH ประมาณ 8.7 ผสมกับกากตะกอน ซึ่งมีค่า
C/N ratio ประมาณ 16.8 pH ประมาณ 8.0
ขั้นตอนการผลิตปุ๋ยหมักจากทะลายปาล์มน้ำมัน
1 ใช้เครื่องสับทะลายย่อยทะลายให้มีขนาดเล็ก
เพื่อความสะดวกในการคลุกกับกากตะกอน
2 ผสมทะลายที่สับแล้วกับกากตะกอน
ในสัดส่วนทะลายเปล่าสับ 8 ส่วน กับกากตะกอน 2 ส่วน (โดยปริมาตร) คลุกให้เข้ากัน
กรณีที่ใช้เชื้อจุลินทรีย์สาหรับย่อยสลายให้ผสมเชื้อในขั้นตอนนี้
3 หลังจากคลุกผสมแล้ว
รดน้ำให้พอเปียกไม่ต้องแฉะ
4 ตั้งกองให้สูงอย่างน้อย
1 เมตร เพื่อให้มีการสะสมความร้อนในช่วงแรกของการหมัก
5 ในช่วง 15 วันแรกของการหมัก ควรปิดกองปุ๋ยด้วยพลาสติกเพื่อรักษาความชื้นและเพิ่มอุณหภูมิ
ภายในกอง และเริ่มกลับกองหลังจาก 15 วัน
6 กลับกองทุก
7 วัน ถ้าพบว่าปุ๋ยหมักแห้งให้รดน้ำ
7 ปุ๋ยหมักจะนาไปใช้ได้เมื่อมีการย่อยสมบูรณ์แล้วสังเกตได้จากอุณหภูมิลดลง
ในการทำปุ๋ยหมักจากทะลายปาล์มใช้เวลาหมักประมาณ 45-60 วัน ซึ่งเวลาการหมักเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับการใช้เชื้อจุลินทรีย์ที่เหมาะสม
การควบคุมความชื้น และการควบคุมอุณหภูมิภายในกองปุ๋ยในช่วงเวลาต่างๆ
ทะลายเปล่า
กากตะกอน
ย่อยวัตถุดิบให้มีขนาดเล็ก
วัตถุดิบที่ผสมแล้วพร้อมตั้งกองปุ๋ย
คลุมกองด้วยพลาสติกเพื่อรักษาความชื้น
กองปุ๋ยอายุ 7 วัน ใส่เชื้อ
การกลับกองปุ๋ยทุก 7 วัน โดยใช้รถตัก
คุณสมบัติปุ๋ยหมักที่ทำจากทะลายปาล์ม
ที่มา : การผลิตปุ๋ยหมักจากวัสดุเศษเหลือในโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม
โดย ธีระพงศ์ จันทรนิยม และ อัจฉรา เพ็งหนู คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
Advertising
ลงโฆษณา โทร 08-6335-2703
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น