ปาล์มน้ำมัน

[ปาล์มน้ำมัน][bsummary]

ยางพารา

[ยางพารา][bsummary]

เทคนิคจากสวน

[เทคนิคจากสวน][twocolumns]

NEWS

[News][bleft]

กยท. เก็บเงินเซสเพิ่ม พัฒนา หรือ ซ้ำเติม ชาวสวนยาง

จากกรณีที่ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ปรับอัตราการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการส่งยางออกนอกราชอาณาจักร (เงิน CESS) แบบขั้นบันได ตามราคายาง (ปัจจุบันจัดเก็บ 1.40 บาท/กก.) มาจัดเก็บในอัตราคงที่ กก.ละ 2 บาท มีผลบังคับใช้ 1 สิงหาคม 2560 โดยให้เหตุผลว่า เพื่อสร้างประโยชน์ในการเดินหน้าพัฒนายางพาราทั้งระบบ

ขณะที่ฝั่งแกนนำเกษตรกรมองว่าการจัดเก็บเงิน CESS เพิ่ม เป็นการซ้ำเติมชาวสวนยางในภาวะที่ราคายางตกต่ำ เพราะแม้กฎหมายจะเขียนว่า จัดเก็บจากผู้ส่งออก แต่ในความเป็นจริงผู้ส่งออกผลักภาระส่วนนี้ซ่อนไว้ในราคายางที่ซื้อจากเกษตรกร

ลองมาดูเหตุผลการจัดเก็บเงิน CESS อัตราใหม่ของ กยท. และคำชี้แจงของ สยยท.
━━━━━━━━━━━━━━━━
กยท. ชี้แจง 4 เหตุผล ต้องเก็บเงิน CESS  อัตราคงที่ 2 บาท/กก.
 ━━━━━━━━━━━━━━━━
ดร.ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวชี้แจงว่า ที่ผ่านมาระบบการจัดเก็บอัตรา ค่าธรรมเนียมฯ เดิมเป็นแบบขั้นบันได อาจส่งผลให้เกิดการบิดเบือนกลไกด้านราคา เพราะอัตราค่าธรรมเนียมฯ จะผันตามระดับราคาในแต่ละช่วงเวลา  โดยมี 4 เหตุผลหลักต่อการจัดเก็บเงินค่าธรรมเนียมการส่งยางออกนอกราชอาณาจักร ในอัตราคงที่ 
1. การจัดเก็บเงินค่าธรรมเนียมคงที่ เป็นการเก็บจากผู้ส่งออกยางพาราออกราชอาณาจักร เพื่อนำมาสมทบ เป็นกองทุนพัฒนายางพารา ช่วยเหลือเกษตรกร สถาบันเกษตร และผู้ประกอบกิจการยางพาราทั้งระบบ ผู้ส่งออกยางพารา ซึ่งเป็นผู้จ่ายค่าธรรมเนียมตามกฎหมาย ไม่ต้องกังวลเมื่อราคายางสูงขึ้นจะต้องเสีย ค่าธรรมเนียมการส่งยางออกนอกราชอาณาจักรมากขึ้น จึงไม่ต้องกดราคาในประเทศให้ต่ำลงเพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมใน อัตราที่น้อยกว่า เกษตรกรจึงได้รับราคาที่สูงขึ้น ด้วยราคารับซื้อยางที่จะขยับราคาเพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการที่ ประมาณการต้นทุนได้ชัดเจน

2. กรณีอัตราการจัดค่าธรรมเนียมแบบคงที่ จะลดแรงจูงใจในการลักลอบส่งออกยางผิดกฎหมาย ทำให้ รายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมสามารถทำได้เต็มประสิทธิภาพ

3. การยางแห่งประเทศไทย จะสามารถจัดเก็บค่าธรรมเนียมฯ จากผู้ส่งออก เข้ากองทุนพัฒนายางพารา เพื่อ นำมาจัดสรรเป็นค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนและส่งเสริมสวัสดิการให้กับเกษตรกรชาวสวนยางเพิ่มขึ้น

 4. เป็นแรงจูงใจไม่ให้มีการบิดเบือนราคาในการเข้าประมูลซื้อยางในตลาดซื้อขายจริงและซื้อขายล่วงหน้า โดยผู้ประกอบการจะทราบต้นทุนที่แน่นอนจากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมคงที่ ส่งผลให้การเปิดราคาประมูลยางที่สูงขึ้น ได้โดยที่ไม่ต้องกังวลเมื่อราคายางสูงขึ้นจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการส่งยางออกมากขึ้น

ดังนั้น จึงได้มีการทบทวนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมส่งยางออกนอกราชอาณาจักรใหม่ โดยจัดเก็บแบบ คงที่ ซึ่งส่งผลดีต่อผู้มีส่วนได้เสียกับยางพาราทั้งระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรชาวสวนยางอย่างแน่นอน
Advertising
 ━━━━━━━━━━━━━━━━
สยยท. วอน ทบทวนเก็บเงิน CESS เพิ่ม อย่าซ้ำเติมชาวสวนยาง
 ━━━━━━━━━━━━━━━━
อุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (สยยท.) มีมติชี้แจงทั้ง 4 ข้อ ของ กยท. ดังนี้

1.ในการจัดเก็บเงิน Cess จะทำให้เพิ่มภาระต่อเกษตรกรต้นน้ำตาม พ.ร.บ.กยท.มาตรา.47 บุคคลใดส่งออกยางพารานอกราชอานาจักรจะต้องเสียค่าธรรมเนียมให้ กยท. ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนั้นไม่ว่าจะอยู่ต้นน้ำ กลางน้ำ หรือปลายน้ำจะต้องได้รับเงินลดลง แน่นอนกลางน้ำหรือปลายน้ำจะต้องมาหักจากผู้ผลิตต้นน้ำอย่างแน่นอน ซึ่งไม่มีทางหลีกเลี่ยง จากประสบการณ์ที่เก็บค่าธรรมเนียมแบบขั้นบันไดพ่อค้าที่ซื้อยางจากเกษตรกรโดยตรงจะนำเงิน Cess เป็นข้ออ้างในการหักเงิน

2. กรณีอัตราการจัดเก็บ Cess แบบคงที่จะลดแรงจูงใจในกรณีลักลอบส่งออกยางผิดกฎหมาย ในการอ้างแบบคงที่ ทำไมจะต้องเก็บ 2.00 บาท/กก. ทำไมไม่เก็บ 1.40 บาท/กก เท่ามาเลเซีย ซึ่งก็เก็บในอัตราคงที่เหมือนกัน และถ้าเก็บเท่ากับมาเลเซียการลักลอบก็จะหมดไปทันที เพราะการลักลอบหนีโดยไม่ยอมเสีย Cess ชายแดนมาเลเซียมีมากที่สุด และโดยเฉพาะผู้ปลูกยางทั่วโลกเขาไม่เก็บ Cess คงมี แต่ไทย มาเลเซีย และอินเดีย 3 ประเทศเท่านั้น ในปัจจุบันราคายางตกต่ำอินเดียงดเก็บ Cess เพื่อเขาช่วยเหลือเกษตรกรของเขา แต่ของไทยเราไม่งดเก็บเพิ่มจาก 1.40 บาท/กก. เป็น 2.00 บาท/กก. ในสภาวะที่เกษตรกรขายยางต่ำกว่าทุนการผลิต ดังนั้น กยท. ควรจะเสนองดเก็บ Cess ชั่วคราวก่อนตามมาตรา 47 (2) 
3.ในสภาวะราคายางเช่นนี้ กยท. จะมาอ้างการจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ส่งออก (หักจากเกษตรกร) เพื่อเข้ากองทุนพัฒนาตามมาตรา 49 (1) ไม่เกินร้อยละสิบเป็นค่าใช้จ่ายบริหารจัดการ กยท. ซึ่งถ้างดเก็บ กยท. จะเดือดร้อนส่วน (2) 40% เป็นการส่งเสริมปลูกแทน และ (3) ถึง (6) สองปีผ่านไปแล้วเกษตรกรยังเข้าไม่ถึงเงินนี้เลยคงใช้ได้บางส่วนเท่านั้น แต่กลับถูกเป็นข้ออ้างเพื่อเกษตรกรเพื่อให้ดูดีเท่านั้น

4. การจัดเก็บค่าธรรมเนียมคงที่ผู้ประกอบการจะคำนวณต้นทุนได้แน่นอน ซึ่งไม่เกี่ยวกับขายตลาดล่วงหน้าหรือตลาดซื้อจริงขายจริง เหตุผลเพราะอินโดนีเซีย ซึ่งมียางเป็นอันดับสองของโลกเขาไม่เก็บค่าธรรมเนียมย่อมได้เปรียบประเทศไทยอยู่แล้ว

ดังนั้น สยยท. จึงขอให้ กยท. ทบทวนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมในช่วงที่ราคายางตกตำโปรดอย่าซ้ำเติมเกษตรกร 
ศิวะ ศรีชาย แสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า  เราไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับการปรับอัตราเก็บเงินค่าธรรมเนียมส่งออกยางเป็นแบบอัตราคงที่ 2 บาท/กก. และเราก็ไม่ได้เห็นด้วยสนับสนุนการเรียกร้องให้งดเก็บเงินเซสชั่วคราว

แต่เราต้องการให้มีการปฏิบัติงานที่ดีมีคุณภาพ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ยึดหลักการมีธรรมาภิบาล 
ของ กยท. และทุกๆ ส่วนที่เกี่ยวข้องและเรามีข้อเสนอแนะนำในวิธีการเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมส่งออกยางในแบบอัตราคงที่แบบก้าวหน้า โดยเริ่มจัดเก็บจากราคายาง

ส่วนที่สูงกว่าต้นทุนการผลิตที่ชาวสวนยางสามารถจะขายยางได้แบบไม่ขาดทุน เพื่อที่ชาวสวนยางจะได้ไม่ต้องรับภาระ อยู่เพียงฝ่ายเดียวและให้งดเก็บเมื่อราคายางต่ำกว่าต้นทุนการผลิตซึ่งเกษตรกรชาวสวน
ยาง ต้องขาดทุน

ไม่มีความคิดเห็น:

บทความที่ได้รับความนิยม