Kick off โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยางวงเงิน
10,000 ล้านบาท ด้านผู้ประกอบการตบเท้าเข้าร่วมโครงการ กว่า 30
บริษัท 49 โรงงาน วงเงินกู้รวม 9,600 ล้านบาท คาดว่าโครงการนี้สามารถดูดซับยางออกจากระบบได้
ซึ่งจะช่วยยกระดับราคาให้สูงขึ้นเป็นการสร้างเสถียรภาพด้านราคายาง
ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่อประเทศ
ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องกับยางพารามากถึงร้อยละ15 ของประชากรไทย
และอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ
ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาราคายางผันผวนให้เกิดเสถียรภาพด้านราคามากขึ้น
ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาราคายางให้กับเกษตรกรชาวสวนยางผู้ผลิตได้ โดยทางรัฐบาล ได้ให้ความสำคัญในแก้ไขปัญหาราคายาง
จึงได้อนุมัติโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยาง หวังดูดซับยางออกจากระบบ ซึ่งจะช่วยยกระดับราคาให้สูงขึ้น เป็นการสร้างเสถียรภาพด้านราคายาง
ซึ่งผู้ประกอบกิจการยางสามารถรับซื้อผลผลิตไปแปรรูปเป็นยางประเภทต่างๆ
เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มต่อไป
ดร.ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการนี้
กำหนดระยะเวลาโครงการตั้งแต่ พฤษภาคม 2560 – เมษายน 2562
และระยะเวลาในการอนุมัติวงเงินกู้จนสิ้นสุดการชำระเงินกู้ตามโครงการฯ
1 ปี ไม่เกิน 30 เมษายน 2562 โดยรัฐบาลจะสนับสนุนการชดเชยดอกเบี้ยในอัตราไม่เกินร้อยละ 3 กับผู้เข้าร่วมโครงการฯ
หรือคิดเป็นเงินช่วยเหลือจำนวนไม่เกิน 300 ล้านบาท
จากวงเงินกู้ 1 หมื่นล้านบาท
ให้กับผู้ประกอบการโดยใช้แหล่งสินเชื่อวงเงินกู้เดิมจากธนาคารพาณิชย์ที่ผู้ประกอบการใช้บริการอยู่แล้ว
“สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการสนับสนุนสินเชื่อฯ 10,000 ล้านบาท จะเป็นผู้ประกอบการแปรรูปน้ำยางข้นที่จดทะเบียนในประเทศไทย และมีผู้ถือหุ้นที่มีสัญชาติไทยมากกว่าร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้น 35 บริษัท 49 โรงงาน วงเงินกู้รวมประมาณ 9,600 ล้านบาท คาดว่าโครงการนี้ จะสามารถดูดซับยางออกจากระบบประมาณร้อยละ 20 ของผลผลิตน้ำยางข้น เป็นการผลักดันราคายางให้สูงขึ้นโดยใกล้เคียงหรือสูงกว่าต้นทุนการผลิตของเกษตรกรชาวสวนยาง และรักษาเสถียรภาพราคายางไม่ให้เกิดความผันผวนมากเกินจุดวิกฤต” ผู้ว่าการ กยท. กล่าวเพิ่มเติม
นายชัยพจน์ เรืองวรุณวัฒนา นายกสมาคมน้ำยางข้นไทย กล่าวว่า โครงการนี้ ทำให้เกิดความร่วมมือสามประสานระหว่างเกษตรกรชาวสวนยาง
ผู้ประกอบกิจการยาง และรัฐบาลในการร่วมกันแก้ไขปัญหาราคายาง
ซึ่งผู้ประกอบการแปรรูปน้ำยางข้นที่เข้าร่วมโครงการฯ
ต้องยื่นขอรับการสนับสนุนสินเชื่อที่ กยท.
เพื่อรวบรวมคำขอส่งให้ธนาคารที่ให้การสนับสนุนสินเชื่อต่อไป
โดยแหล่งสินเชื่อใช้วงเงินกู้เดิมจากธนาคารพาณิชย์ที่ผู้ประกอบการใช้บริการอยู่แล้ว
และรัฐบาลจะเงินชดเชยดอกเบี้ยสนับสนุนในอัตราไม่เกินร้อยละ 3 จำนวนไม่เกิน 300 ล้านบาทจากวงเงินกู้รวม 10,000 ล้านบาท
คาดว่า จะสามารถเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อฐานของราคายางปรับสูงขึ้นเกษตรกรชาวสวนยางมีอำนาจการใช้จ่ายมากขึ้น
จะสร้างวงจรเศรษฐกิจให้เคลื่อนไหวได้รับประโยชน์กันในทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทยต่อไป
advertivsing
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น