ปาล์มน้ำมัน

[ปาล์มน้ำมัน][bsummary]

ยางพารา

[ยางพารา][bsummary]

เทคนิคจากสวน

[เทคนิคจากสวน][twocolumns]

NEWS

[News][bleft]

เกษตรผสมผสาน 60 ไร่ ของชาวสวนยางเชียงใหม่ ทำรายได้หลายทาง

เกษตรกรชาวสวน จ.เชียงใหม่ ผันตนเองจากข้าราชการสู่ เกษตรกร เต็มตัว พลิกแนวคิดจากปลูก “พืชเชิงเดี่ยว” พื้นที่กว่า 60 ไร่ เป็น “เกษตรผสมผสาน” ปลูกยางพารา ร่วมพืชชนิดอื่นๆ ใต้ร่มยางให้ผลผลิตหมุนเวียนกันในรอบปี ควบคู่กับการเลี้ยงสัตว์ สร้างรายได้หลักแสน/เดือน เกิดผลที่มั่นคงและยั่งยืน

สมจิตร์ บรรณจักร์ เจ้าของสวนยางเกษตรผสมผสาน เผยว่า โดยส่วนตัวมีความสนใจทำเกษตรมาตั้งแต่สมัยหนุ่ม จึงผันตนเองจากข้าราชการสู่เกษตรกรเต็มตัว ในพื้นที่ 60 กว่าไร่

เขาเริ่มต้นจากทำสวนลิ้นจี่ มาจนถึงสวนส้ม แต่ประสบปัญหาจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และประกอบกับช่วงปี 2547 – 2549 รัฐบาลมีโครงการปลูกยาง 1 ล้านไร่ จึงหันมาปลูกยางพารา โดยขอรับการสงเคราะห์ปลูกแทนด้วยยางพันธุ์ RRIM 600 จำนวน 2,000 กว่าต้น และลงทุนซื้อเพิ่มอีกประมาณ 2,000 ต้น ปลูกยางประมาณ 30 ไร่

พร้อมกับสร้างแนวคิดปรับมาทำ “เกษตรผสมผสาน” ได้แก่ ปลูกต้นสัก มะม่วง และมีการเลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา พร้อมการปลูกไม้ใต้ร่มยาง คือปลูก “กาแฟ” สายพันธุ์อาราบิก้า เพิ่มเข้ามาด้วย

หลังจากได้ศึกษาแล้วพบว่าการปลูกพืชที่ให้ผลผลิตหมุนเวียนกันในรอบปี และการเลี้ยงสัตว์ควบคู่ไปด้วย เกิดผลที่ยั่งยืนกว่าการทำการเกษตรเชิงเดี่ยว
สวนยางของเขาเริ่มเปิดกรีดได้เมื่อปี 2559  เก็บผลผลิตเป็นยางก้อนถ้วยและจะส่งขายทุกๆ 7 วัน  ประมาณ 2 ตัน/ครั้ง  มีรายได้  60,000 บาท/เดือน

ในส่วนของพื้นที่ที่เหลืออีกประมาณ 30 ไร่ ได้ขุดบ่อน้ำเพิ่มเป็น 2 บ่อเพื่อเป็นแหล่งน้ำ และใช้เป็นบ่อเลี้ยงพันธุ์ปลาสวาย ปลานิล และอีกหนึ่งบ่อหนึ่งเป็นบ่อปลารวมหลายๆ ชนิด โดยใช้เวลาในการเลี้ยงรอบละ 6 เดือน จึงให้พ่อค้ามารับซื้อได้

นอกจากนั้น ยังเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่  ไว้ประมาณ 20,000 ตัว  ให้ไข่วันละ 14,000-15,000 ฟอง ซึ่งจะมีระยะการให้ไข่ได้ 18 เดือน และยังมีขี้ไก่ที่สามารถขายได้อีกวันละ 40-50 กระสอบ

ส่วนของกาแฟที่เป็นการปลูกในพื้นที่ใต้ร่มยางจำนวน 30 ไร่นั้น เริ่มมีการเก็บผลผลิตได้ตั้งแต่ปี 2559 รอบการเก็บผลผลิตเฉลี่ย 4 เดือนต่อครั้ง เก็บได้ครั้งละ 800-900 กิโลกรัม ราคาขายที่ 95-100 บาทต่อกิโลกรัม ก็นับว่ามีรายได้อย่างต่อเนื่องทุกๆ วัน

การปรับแนวคิดจากเกษตรเชิงเดี่ยว มาสู่เกษตรผสมผสาน ยึดตามหลักแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง เพราะเกิดจากความเชื่อและความรักในการเป็นเกษตรกร พร้อมทั้งจากการศึกษาหาความรู้มาตลอดชีวิตที่ผ่านมา จึงพบว่าการทำเกษตรที่ยั่งยืน ควรเริ่มจากตัวเกษตรกรเองที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ไม่หวังพึ่งจากผลผลิตชนิดใดหนึ่งเพียงอย่างเดียว เพราะการทำเกษตรที่ได้ผลิตหมุนเวียนตลอดปี จะทำได้เกิดรายได้ที่มั่นคั่ง และทำให้ชีวิตมีความมั่นคง อย่างยั่งยืน นายสมจิตร์ กล่าว
ดร.ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กยท. เดินหน้าผลักดันให้การสนับสนุนและส่งเสริมการปลูกยางพาราตามนโยบายของรัฐบาล โดยเริ่มจากการปรับกระบวนทัศน์ของเกษตรกรชาวสวนยางรายย่อย หันมาปลูกยางตามแนวเกษตรทฤษฎีใหม่ ซึ่งเกษตรกรชาวสวนยางที่มีการโค่นยางพาราแล้วยังปลูกพืชเศรษฐกิจ หรือปลูกยางพารา จะส่งเสริมให้มีการแบ่งสัดส่วนของพื้นที่เป็นการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ไม่ว่าจะเป็นการขุดบ่อ การทำปศุสัตว์ หรือทำปลูกพืชท้องถิ่นอื่นๆ ร่วมด้วยในแปลงสวนยาง เพื่อให้มีรายได้หมุนเวียนตลอด หรือหากมีพื้นที่ปลูกยางพาราอยู่แล้ว กยท.จะส่งเสริมให้ปลูกพืชอื่น หรือการทำปศุสัตว์ เป็นลักษณะเกษตรแบบผสมผสานควบคู่ด้วย

 
- advertivsing -
- Advertising -

ไม่มีความคิดเห็น:

บทความที่ได้รับความนิยม