ปาล์มน้ำมัน

[ปาล์มน้ำมัน][bsummary]

ยางพารา

[ยางพารา][bsummary]

เทคนิคจากสวน

[เทคนิคจากสวน][twocolumns]

NEWS

[News][bleft]

ทำหมันสวนยาง 200,000 ไร่ ใน 3 เดือน รัฐจ่ายเพิ่มรายละ 4,000 บาท มาตรการลดผลผลิต ดันราคายางสูง

15 ธันวาคม 2560 >>> คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบมาตรการแก้ไขปัญหายางพาราตกต่ำ 3 มาตรการ และจะนำเข้าหารือต่อ ครม. ในสัปดาห์หน้า (19 ธันวาคม 2560) ได้แก่

1. สนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ โครงการสนับสนุนสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยาง (ยางแห้ง) วงเงิน 20,000 ล้านบาท และโครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง วงเงิน 15,000 ล้านบาท

2. ลดการกรีดยางและลดพื้นที่การปลูกยาง โดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จะชดเชยในอัตรา รายละ 4,000 บาท จากเดิมที่ได้รับอยู่แล้วรายละ 16,000 บาทต่อไร่ หวังเร่งรัดการโค่น ลดผลผลิต ในช่วงเดือนมกราคม - มีนาคม 2561 ควบคู่กับการให้ภาครัฐหยุดกรีด 3 เดือน คาดว่าจะลดปริมาณผลผลิตยางแห้งประมาณ 10,000 ตัน

3. เตรียมรวบรวมผลผลิตจากเกษตรกร สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง 2 แสนตัน ในช่วงเดือนธันวาคม 2560 - 30 เมษายน 2561 เพื่อป้อนเข้าสู่หน่วยงานภาครัฐ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.)
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยว่า กนย. เห็นชอบโครงการสนับสนุนสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยาง (ยางแห้ง) วงเงิน 20,000 ล้านบาทเพื่อช่วยดูดซับปริมาณยางออกจากระบบประมาณร้อยละ 11 ของผลผลิตยางแห้ง 350,000 ตัน จากผลผลิตทั้งปี ประมาณ 3.2 ล้านตัน

โดยรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยในอัตราตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี (ไม่เกิน 600 ล้านบาท) ตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 - เดือนธันวาคม 2562 และมีระยะเวลาการชำระเงินคืนเงินกู้ไม่เกิน 1 ปีนับจากวันทำสัญญาต่อปี โดยเห็นชอบให้ กยท. ดำเนินโครงการ

รวมถึง ยังเห็นชอบให้เปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง วงเงิน 15,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายกำลังการผลิต/ปรับเปลี่ยนเครื่องจักรการผลิต ภายใต้โครงการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบตามกรอบวงเงิน 15,000 ล้านบาท

- Advertisement - 



ปัจจุบันมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ เพียงจำนวน 29 ราย และได้รับอนุมัติสินเชื่อเข้าร่วมโครงการฯ 16 ราย วงเงินประมาณ 8.887 พันล้านบาท ปริมาณการใช้ยางเพิ่มขึ้น 35,550 ตัน/ปี ขณะนี้ มีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการอีกหลายราย ซึ่งจะเป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้ยางภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น  

นอกจากนี้ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานภาครัฐใช้ยางพาราภายในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาราคายางพาราให้มีเสถียรภาพ โดยการดูดซับปริมาณยางออกจากตลาด เตรียมให้ กยท. รับซื้อผลผลิตยางพารา ได้แก่ ยางแผ่นดิบคุณภาพ 3 น้ำยางสด ยางก้อนถ้วย หรือยางชนิดอื่นๆ รับซื้อผ่าน ตลาดยาง กยท. ตลาดเครือข่าย และตลาดกลางยางพารา กยท. ประมาณ 200,000 ตัน ในช่วงเดือนธันวาคม 2560 - 30 เมษายน 2561 ไปใช้งานหน่วยงานภาครัฐแจ้งความประสงค์ เช่น

การทำถนนลาดยางมะตอยผสมยางพาราชนิดผสมร้อน (Para Asphaltic Concrete) ชั้นพื้นทางของถนน (Based) Para rubber polymer soil cement ยางปูพื้นแบบ Block สนามฟุตซอล หรือ สนามเด็กเล่น ยางปูสระน้ำ และอื่นๆ เป็นต้น 
━━━━━━━━━━━━━━
กยท. หนุนปลูกพืชอื่นแทนยาง 2 แสนไร่ ลดปริมาณยาง 9 หมื่นตัน
━━━━━━━━━━━━━━
นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวต่อว่า จากนโยบายในการสร้างเสถียรภาพด้านราคา ด้วยมาตรการลดพื้นที่ปลูก เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างปริมาณและความต้องการใช้ กยท. มีแผนดำเนินการโดยเร่งรัดการโค่นยางมากยิ่งขึ้น ด้วยการสนับสนุนการโค่นเพื่อปลูกแทนของเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. ไปปลูกแทนด้วยไม้ยืนต้นชนิดอื่น ทั้งไม้ผลไม้แปรรูปและอื่นๆ ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ จำนวน 200,000 ไร่ พร้อมสนับสนุนปัจจัยการผลิตให้ชาวสวนยางรายละ 4,000 บาท ในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2561 นี้ 
นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย
จะเป็นการลดพื้นที่ปลูกยางแบบถาวร และยังส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรชาวสวนยางปลูกแทนด้วยยางพันธุ์ดี เน้นการปลูกแทนแบบผสมผสาน ตาม พ.ร.บ. กยท.พ.ศ.2558 อีกจำนวน 200,000 ไร่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิต ควบคู่กับลดปริมาณผลผลิตคาดว่าการส่งเสริม และสนับสนุนครั้งนี้ จะลดปริมาณผลผลิตจากภาคเกษตรกรได้ไม่น้อยกว่า 90,000 ตัน

นอกจากนี้ ยังให้หน่วยงานภาครัฐที่มีสวนยาง ประมาณ 121,000 ไร่ ทั้ง กยท. กรมวิชาการเกษตร และ ออป. ร่วมกันหยุดกรีดยาง จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งช่วยลดปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดได้ไม่น้อยกว่า 6.78 พันตันในระยะเวลา 3 เดือนนี้ 


- Advertisement -

ไม่มีความคิดเห็น:

บทความที่ได้รับความนิยม