กยท. ร่วมกับ ปตท. จัดโครงการ “จุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางพาราช่วยพัฒนาเกษตรกรไทย”
เปิดจุดจำหน่ายสินค้าแปรรูปจากผลิตภัณฑ์ยางพารา ณ จุดบริการสถานีน้ำมัน ปตท.
นำร่อง 14 แห่ง ทั่วประเทศ
สร้างช่องทางการจำหน่ายสินค้ายางพาราและความสะดวกแก่ประชาชน
ยกระดับสินค้ายางพาราสู่มาตรฐานสากล
พล.อ.ฉัตรเฉลิม
เฉลิมสุข ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย
กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า ถือเป็นอีกครั้งสำคัญของความร่วมมือระหว่างรัฐวิสาหกิจ
2 หน่วยงาน คือ
การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
ในการส่งเสริมและขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐ เรื่องการใช้ยางพาราภายในประเทศ
ที่มุ่งเน้นให้มีการนำวัตถุดิบไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ยาง เพื่อเพิ่มมูลค่า
ทดแทนการพึ่งพาการส่งออกในรูปของวัตถุดิบเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงแต่จะเป็นการแก้ปัญหาเรื่องราคาเท่านั้น
แต่ยังช่วยสร้างความสมดุลด้านปริมาณผลผลิต และความต้องการใช้ยางเช่นกัน
ในส่วนของความร่วมมือภายใต้โครงการจุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางพาราช่วยพัฒนาเกษตรกรไทย
ถือเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง
และผู้ประกอบกิจการยาง ที่จะนำผลผลิต และความรู้ นวัตกรรมต่างๆ
มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการยกระดับและพัฒนาอาชีพการทำสวนยาง
ตลอดจนเพิ่มมูลค่าผลผลิต และสร้างรายได้ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เพราะ
กยท. มีการสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือภาคเกษตรกรทั้งด้านองค์ความรู้
และแหล่งเงินทุน
ในขณะเดียวกัน ปตท. ยังช่วยสนับสนุนช่องทางการตลาดผ่านสถานีบริการน้ำมันของ
ปตท. ทั้ง 14 แห่ง
ในจังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกยางพารา เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าและสามารถจำหน่ายสินค้าได้มากยิ่งขึ้น
ในส่วนของ กยท. จะดำเนินการจัดหาเกษตรกรชาวสวนยาง
สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง และผู้ประกอบกิจการยาง ที่ผ่านการคัดสรรจากทั่วประเทศ
เพื่อเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้
นายอรรถพล
ฤกษ์พิบูลย์
ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด
(มหาชน) กล่าวว่า การเปิดพื้นที่ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ทั่วประเทศ
ให้เป็นศูนย์กลางของชุมชนได้นำสินค้าแปรรูปจากยางพาราเข้ามาจำหน่ายโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายตลอดปี
2561 นี้ เพื่อช่วยพัฒนาและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าของเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วยเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายในการหาพื้นที่จำหน่ายให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางได้อีกช่องทางหนึ่ง
ปตท. ต้องการให้สถานีบริการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนตามแนวคิด living community ที่พร้อมส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน และทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในการพัฒนาสินค้า บริการ ความเป็นอยู่ ตลอดจนคุณภาพชีวิตของประชาชนให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน ดังเช่นที่ผ่านมาในช่วงพืชผลทางการเกษตรล้นตลาด ปตท. ได้เปิดพื้นที่ในปั๊มให้เกษตรกรเข้ามาจำหน่ายพืชผลทางการเกษตร โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย อาทิ ข้าว และผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆ เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น