ทำไม รถโฟร์คลิฟท์ มือสอง เดี๋ยวนี้แพงจัง...? โดย ประยูร เสียงล้ำ

คำถามที่มีคนถามมาก ทำไม รถโฟร์คลิฟท์ มือสอง เดี๋ยวนี้แพงจัง...?

เพราะอะไรเรามีคำตอบครับ

ราคารถโฟร์คลิฟท์ ควรมีเท่าไหร่...? ในท้องตลาด
คำตอบ...ราคาในท้องตลาดที่เจอ คันละแสนครับรถเดิมๆ ไม่มีอะไรพิเศษ เช่น รถโฟร์คลิฟท์ 1.5 ตัน 1.5 ton ราคาตลาดก็คือ 150,000 บาท บวกลบรถ 2.0 ตัน ยกได้ 2 ton ราคาทั่วไปก็ 200,000 บาท
รถ 2.5 ตัน ราคาก็ไม่เกิน 250,000 บาท สามตันก็ราคาไม่เกิน 300,000 บาท บวกลบนิดหน่อย

นั้นคือราคารถที่ไม่มีอุปกรณ์พิเศษรุ่นรถกลางๆ ราคานี้อาจได้เครื่องยนต์เบนซิน แต่จะได้รถสวยๆ ถ้าเป็นเครื่องยนต์ดีเซลตันละ 100, 000 อาจได้ปีรถลึกๆนิดเท่าที่สังเกตมา

เสาแสตนดาร์ดที่ยกได้สูง 3 เมตร มาตรฐานทั่วๆ ไป งาก็ไม่มีงาพิเศษอื่นๆงาเทงากระดกงาหมุนได้งาสไลด์เลื่อนซ้ายขวาได้ ไม่มีติดรถมานะครับ และราคาที่ว่านี้จะเป็นรถ เป็นราคาขายตามแหล่งเชียงกงตึกแถวที่ขายกันเยอะๆ จอดกันเรียงรายตามแหล่งขายอะไหล่มือสอง เครื่องยนต์หัวเก๋งสิบล้อหรือร้านขายโฟร์คลิฟท์ทั่วไป

แต่ ต้องมีคำว่าแต่...นิด...
ตันละ 100,000 ที่เขาเปิดราคามาให้เราคือตามสภาพ สีรถมาไงไปแบบนั้น ยางเห็นอย่างไรได้แบบนั้นภายในภายนอกสภาพดูเอา ติดเครื่องยนต์ลองได้วิ่งดูได้พอใจค่อยจ่ายเงินซื้อขายกันยกไปเอาไปล้างเอานะ

ส่วนตามห้างร้านบริษัทที่นำเข้ามาขายจะขายถูกหรือขายแพงผมคงไม่กล่าวถึงเพราะแต่ละร้านทุนซื้อเข้าไม่เท่ากัน อีกทั้งค่าดำเนินการกิจการต้นทุนบริหารค่าใช้จ่ายของแต่ละที่ไม่เท่ากัน ขายราคาถูกขายราคาแพงตรงนี้เราขออนุญาตไม่กล่าวถึงนะครับ เพราะบางคันเราก็ขายถูกขายแพงก็มีเป็นธรรมดาครับ แล้วแต่ต้นทุนสินค้า เอาเป็นแบบพูดรวมๆ ดีกว่าว่า....

อะไรที่เป็นตัวแปรทำให้รถราคาสูงขึ้นกว่าที่กล่าวมา
มีตัวที่ทำให้ราคาอัพขึ้น แพงขึ้น เพราะ…

1. ประเภทของเครื่องยนต์เครื่องดีเชลทำไมถึงแพง??

เอามาเป็นหัวข้อแรกเลยคนหาเยอะดีเชล ในรถโฟร์คลิฟท์จะมีการวางเครื่องยนต์ทั้งเครื่องยนต์เบนซินที่มีหัวเทียนใช้น้ำมันเบนซินติดแก๊สได้แบบรถยนต์กับวางเครื่องยนต์ดีเซลใช้น้ำมันดีเชลหรือน้ำมันโซล่าแบบรถยนต์เช่นกัน

คราวนี้เรามาดูกันว่าทำไมรถเครื่องยนต์เบนซินจึงราคาถูกกว่ารถโฟร์คลิฟท์ เครื่องยนต์ดีเชล
เพราะมีการผลิตและใช้งานกันมากแพร่หลายมากในประเทศญี่ปุ่น พอเป็นรถเก่ามือสองและถูกขายต่อมาประเทศเราจึงมีจำนวนมากคันทำให้ราคาก็ถูกลงตามจำนวนที่มีมาก

ส่วนเครื่องยนต์ดีเชลประเทศญี่ปุ่นก็นิยมแต่จะมีไม่มากเพราะข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมควันไอเสียที่ปล่อยออกมามีผลต่อการกำหนดสิ่งปนเปื้อนและสภาพที่ทำงานแคบๆ อาจมีผลต่อการสูดดมของพนักงานจึงไม่ค่อยมีใช้แพร่หลายนัก

เมื่อจำนวนรถใช้งานน้อยพอเป็นรถเก่ามือสองก็จะมีจำนวนน้อยตาม พอจำนวนน้อยแต่ความต้องการชื้อมีมากราคารถเครื่องยนต์ดีเชลจึงมีราคาแพงกว่า
หากเทียบกันสภาพและรุ่นเดียวกัน คันที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลจะแพงกว่ารถที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินอยู่ประมาณ 100,000 – 120,000 ครับ

2. ความสูงของเสาเสาสูงๆ ทำไมถึงแพง...?

แสตนดาร์ดความสูงเสาของรถทุกคันคือยกได้สูง 3 เมตร เกินกว่านั้นถือว่าเป็นตัวเลือกพิเศษเฉพาะงานเฉพาะคันที่ใช้เสาสูง ถือว่ามีน้อยอีกเช่นกันในรถที่เมืองนอก
พอมีน้อยราคาก็ขยับขึ้นอีกเช่นกัน เมตรละหมื่น สามเมตรคือเสาติดรถ พอเปลี่ยนเป็นเสาสูงขึ้นเขาคิดกันก็เมตรละหมื่น เสา 4 เมตร ก็เพิ่มเงินอีก 40,000 บาท

อยากได้เสา 5 เมตร ก็ต้องโดนคิดเพิ่มอีก 50,000 บาท สมมุติเราชอบรถราคา 300,000 บาท ที่เสา 3 เมตร

พออยากได้เสา 4 เมตร เราจะโดนบวกเข้าไปทันที 40,000 บาท ราคาตัวรถจะอยู่ที่ 340,000 บาท อาจต่อรองได้บ้างเมื่อแลกเปลี่ยนเสา 3 เมตร เดิมของเราคืนร้านไปคงไม่มีใครเอาเสากลับบ้าน 2 ต้นแน่ 55555

3. อุปกรณ์พิเศษมีแล้วทำไมถึงแพง...?

งาแสดนดาร์ดคืองาที่ใช้ตักและวางตักและยกทั่วๆ ไป ความยาวงามาตรฐานคือ 1.07 เมตร เกินนั่นถือว่าเป็นออฟชั่นครับ ตัวอุปกรณ์พิเศษในรถโฟร์คลิฟท์ มีมากมายหลากหลายแต่ที่นิยมใช้ก็จะมีงาสไลด์ ซ้าย-ขวา กับงาเท งากระดก เทได้แบบที่เราเน้นเอามาขายอยู่ครับ

อุปกรณ์พิเศษ 2 ตัวนี้ตัวแรกจะมีเยอะแพร่หลายมาก ราคาที่คิดเงินเราเพิ่มจากราคาตัวรถเมื่อเราเลือกเอาเพิ่ม เขาจะคิดกันอีก 30,000 - 35,000 บาทครับ

แต่ตัวงาเทงากระดกหรืองาเทอิ้งค์ฟอร์คจะไม่ค่อยมีแพร่หลายมีมาเฉพาะคันมีมาน้อย
พอจำนวนมันน้อยคนหาเยอะ เช่นเคยราคาก็จะอัพจะแพงตั้งแต่ร้านเราไปหาซื้อเข้ามาขายพี่ๆ แล้วครับอันนี้เรื่องจริงเลย

4. พอมีตัวเททำไมถึงแพง...?

คำตอบคือมันมีน้อยคันจึงแพง
ถอดแยกขายออกจากตัวรถราคาขายในท้องตลาดราคาประมา40,000 - 55,000 บาท ต่อตัวของติดรถแท้จากนอกตรงรุ่นไม่ต้องดัดแปลง แบบดัดแปลงแต่งเติมใส่แล้วได้เทได้ราคาขึ้นอยู่กับต้นทุนเรื่องค่าดัดแปลงกับเวลาครับค่าแรงคนทำ ของใหม่มีขายครับตัวเทราคาพอๆ กันข้อดีคือใส่ได้ทุกรุ่นทุกยี่ฮ้อหาของง่ายกว่าแต่หลายคนบอกอยากได้ของติดรถแต่ไม่ค่อยมีถอดขายจึงลำบากนิดหนึ่ง

5. ทุนซื้อเข้าและอำนาจการต่อรองจากเมืองนอก

ตัวนี้ก็จะมีส่วนทำให้ราคารถที่วางขายในบ้านเรามีราคาถูกหรือแพงกว่ากันเยอะ เพราะว่าหากซื้อกันมานานๆ ซื้อกันมาบ่อยก็จะได้ราคาพิเศษชื้อมีจำนวนชื้อแหลกซื้อลานก็จะได้ราคาพิเศษคุยเก่งจีบเก่งปากหวานก็จะมีส่วนลดพิเศษ55555 อันนี้มีหรือเปล่าไม่รู้นะครับแต่เราเองพยายามทำทั้ง 3 ข้ออยู่ตอนนี้เพื่อให้ได้สินค้าต้นทุนต่ำขึ้น

หมดยุคแล้วครับซื้อได้ถูกๆ แบบสมัยก่อนแล้วมาขายได้แพงๆ ที่บ้านเราสมัยก่อนอาจมีแต่เดียวนี้ประเทศอื่นเขาพร้อมซื้อกว่าเราเขาก็เลือกขายที่ได้ราคากว่าเป็นธรรมดา

6. อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ

ระหว่างเงินบาทไทยกับเงินเยน ณ วันที่เราชำระเงินข่วงนั้น ตอนเราเลือกรถดูรถสมมุติ
อัตราแลกเปลี่ยน เงินเยน JPY อยู่ที่ .290 ต่อ 1 บาทไทย แต่เวลาวันจ่ายเงินจริงกลับเปลี่ยนไปที่สมมุติ
.320 ต่อ 1 บาทไทย

สมมุติเล่นๆ นะครับเช่นรถคันเดียวกัน คันละหนึ่งล้านเยน เราต้องจ่ายเขา 1,000,000 เยน JPY
คูณเรตอัตราแลกเปลี่ยนที่ .290 จะเท่ากับ 290,000 บาทไทย/คัน ตอนนั้น

แต่เงินจำนวนเท่ากัน1ล้านเยนจ่ายในเรตอัตราแลกเปลี่ยนที่ .320 บาทไทย ต้องจ่ายเพิ่มเท่ากับ1,00,000 JPY คูณ .320บาท = 320,000 บาท ต่างกัน 30,000 บาท ไทยในเวลาพริบตาใช้ไหมครับรถคันเดียวกันทุนต่างกัน 30,000 บาทไทย

1 ตู้บรรจุได้ประมาณ 6 คัน คูณ 30,000 บาท รวม 180,000 บาทที่ ต้องจ่ายหรือประหยัดได้ต่างกัน
พอนึกภาพออกตามทันนะครับ มีค่าภาษีนำเข้าค่าอากรค่าแวต ค่าชิปปิ้ง ค่าลากตู้อีกนิดหน่อยตู้ละ 180,000 บาท เฉลี่ยแล้วแต่เราชื้อรถราคาถูกมาหรือซื้อรถราคารวมๆ สูงหน่อยในตู้นั้น

7. รุ่นรถที่เราเลือกปีรถปีผลิตของรถสภาพรถที่เราอยากได้มาใช้ตัวนี้มีผลต่อราคาค่อนข้างเยอะ

ปีใหม่ๆ รุ่นใหม่ๆ สภาพสดๆ ก็สูงนิดราคาต้องทำใจ ยิ่งการถชั่วโมงน้อยๆ ไม่ค่อยได้ใช้พอเรียกราคาได้จากผู้ขายเป็นธรรมดา

ส่วนเราก็พยายามหาสเป็กดีๆ แบบว่าแต่ตามจังหวะครับของแบบนี้ สุดท้าย ถูกแพงราคาขายของรถโฟร์คลิฟท์ในบ้านเรา อาจเกิดจากต้นทุนบริหารต้นทุนกิจการต้นทุนดอกเบี้ยธนาคารต้นทุนรวมๆ ขององค์กรนั้นๆ ร้านใหญ่รายได้ดีก็กระจายรายจ่ายรวมๆ ไปหลายๆ ทางคนกินเยอะหลายปากก็ต้องกินจุจะได้พออิ่ม

คนน้อยบริษัทเล็กพุงเล็กกินไม่มากก็อิ่มเหมือนพุงเราเองครับคิดง่ายๆ ต่างคนต่างค้าขายหวังเลี้ยงกิจการแต่ละร้านแต่ละคนธรรมที่จะมีราคาสินค้าที่แตกต่างกันออกไป
เราเองก็จะพยายามให้มากขึ้นที่จะหาสินค้าในราคาที่สมเหตุสมผลมานำเสนอนะครับในปีถัดไป

ขอบคุณที่ติดตามเราคิดเสมอว่ายังไม่ชื้อไม่เป็นไร
ทักเราเถอะถามเรามาเถอะยินดีเลยและขอบคุณ
ทุกๆ ท่านให้โอกาสเราเพื่อให้มีงานทำ

เรื่องโดย : ประยูร เสียงล้ำ

บริษัท พีทีเอ.เซอร์วิส ฟอร์คลิฟท์ แอนด์ พาร์ท จำกัด

บริษัท พีทีเอ.เซอร์วิส ฟอร์คลิฟท์ แอนด์ พาร์ท จำกัด 37/4 หมู่ 2 ต.หนองกะขะ อ.พานทอง จ.ชลบุรี 20160 โทร. 0-3819-3022 , 0-3815-4018-9 แฟกซ์. 0-3815-4017 Email : ptaser@loxinfo.co.th

- Advertisement -