เมื่อหลายปีก่อนยางพารามีราคาสูง ผมให้
“ยาง” เป็นพืชหลัก “ไผ่” เป็นพืชเสริมรายได้ เน้นดูแลยางเป็นหลัก
ไผ่ทำแค่ขำๆ พอให้มีรายได้เสริม
แต่ทว่าตั้งแต่ราคายางตกต่ำ ผมก็ปรับให้ไผ่เป็นพืชหลัก
ส่วนยางเป็นพืชเสริมรายได้
เดี๋ยวนี้เน้นดูแลไผ่เป็นหลัก
หันมาทำไผ่จริงจัง ทำตั้งแต่ผลิตกล้าจนถึงการหยิบจับเอาส่วนต่างๆ ของไผ่มาแปรรูป
ต่อยอดเพื่อเพิ่มมูลค่า เดินตามศาสตร์พระราชา น้อมนำหลักปรัชญามาปรับใช้
สวนยาง 5 ไร่ ที่ผมปลูกให้รายได้เสริมสูงปี๊ดเลย เพราะที่นี่เราขายทุกส่วนตั้งแต่หน่อไม้ยันการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ชาร์โคลอินดี้
ผมจะทำบันทึกรายได้เอาไว้ เดือนๆ หนึ่งก็ประมาณ
15,000-45,000 บาท
(แล้วแต่ความขยัน)
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ บวกรวมรายได้จากสวนยางประมาณ 20 ไร่ของที่นี่ ก็ยังไม่ได้เสี้ยวของรายได้จากไผ่ 250
กอที่เรามี เมื่อเอามารวมๆ กันทั้งยางทั้งไผ่ เราจึงไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาราคายางพาราตกต่ำ
สวนยางที่ปลูกแซมด้วยไผ่ แต่วันนี้รายได้จากไผ่แซงยางแบบไม่เห็นฝุ่น |
ขยายพันธุ์ไผ่ สร้างรายได้ทั้งปี |
ไม่เพียงในแง่ของรายได้เท่านั้น การปลูกไผ่เป็นพืชร่วมยางมันให้อะไรเยอะมาก
มองแบบพื้นๆ ที่เห็นได้ชัด คือ มันไม่ต้องตัดหญ้า หน้ายางก็ไม่เน่า
ดินในสวนก็ชุ่มชื้นตลอดทั้งปี น้ำยางก็ออกดี ปุ๋ยก็ไม่ต้องใส่
ช่วยลดต้นทุนในการจัดการสวนได้เยอะเลย
มองในแง่ของคุณค่า ผมว่ามันสบายใจ แค่ได้ลงมาเดินเล่นชิวๆ ก็มีความสุขแล้ว ยิ่งได้บอกต่อสิ่งที่เราทำ
เพื่อให้คนอื่นๆ ได้นำไปปรับทำกับสวนของตัวเอง ยิ่งมีความสุข
ปลูกเถอะครับ
ปลูกอะไรก็ได้ที่คิดว่าเหมาะกับเรา ที่สำคัญคิดแล้วมันต้องทำ อย่ารอหวังพึ่งแต่การช่วยเหลือจากภาครัฐ เพราะคนเดียวที่จะช่วยเราได้ดีที่สุดก็คือ...ตัวของเราเอง
สวนไผ่อาบู ตั้งอยู่ใน อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา โดย บุญชู สิริมุสิกะ ชายหนุ่มที่ทิ้งอาชีพวิศวกรในเมืองหลวง กลับสู่บ้านเกิด ที่มีรากฐานอาชีพจากสวนยางและสวนปาล์ม แน่นอนว่าเป้าหมายของเขาไม่ใช่อยู่ที่เงินทอง หากแต่แสวงหาความยั่งยืนและความสุข ปัจจุบัน บุญชู คือผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกไผ่ในสวนยางและสวนปาล์ม มีรายได้หลายทาง ซึ่งมากกว่าเงินเดือนวิศวกร และยังกลายเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ด้านการปลูกไผ่ที่มีชื่อเสียงของ จ.พังงา มีคนเข้าไปศึกษาดูงานไม่ขาดสาย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สวนไผ่ อาบู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น