กยท. ลดกระแสต้าน เบรก เอกชน ปรับปรุงระบบเก็บเงิน Cess ย้ำเดินหน้าทลายผู้ส่งออกทุจริตจ่ายเงิน Cess
Labels:
News
การยางแห่งประเทศไทย ยืนยัน
ไม่เคยมีแนวคิดการจ้างเอกชนมาเก็บค่าธรรมเนียมการส่งออกยางพารา (CESS) แทนคนของ กยท.
- Advertisement -
เป็นเพียงการปรับปรุงระบบจัดเก็บเท่านั้น
ซึ่งเดิมมีปัญหาเรื่องการเชื่อมโยงข้อมูลของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการรั่วไหลของเงิน Cess พร้อมสั่งชะลอโครงการออกไปก่อน
เพื่อเปิดรับฟังความเห็นเพิ่มเติมจากทุกภาคส่วน
นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการ กยท. กล่าวว่า
การปรับปรุงระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมส่งออกยางพารา (Cess) เกิดจากการพบเหตุผิดปกติ ทำให้ประเมินได้ว่าอาจเกิดการรั่วไหลของการจัดเก็บเงิน
Cess
ไม่ว่าจะเป็นการมาขอคืนค่าธรรมเนียมของผู้ส่งออกยาง
การประเมินค่าธรรมเนียมจากพื้นที่ปลูกยาง
รวมทั้งการลงพื้นที่ติดตามกระบวนการการขนส่งยางพารา ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการที่
กยท. ขาดความพร้อมเรื่องของเครื่องชั่งบริเวณด่านก่อนผ่านพิธีศุลกากร
และประสิทธิภาพของระบบการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
คณะกรรมการ กยท. จึงมีมติเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2560 ให้ศึกษาแนวทางการปรับปรุงระบบการจัดเก็บค่าธรรมเนียมฯ
โดยเปรียบเทียบจากต้นทุน และผลที่ได้ในหลายๆ วิธี เช่น ให้ กยท.
ดำเนินการปรับปรุงระบบเอง (เพิ่มบุคคลากร วางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
และเพิ่มจุดตั้งด่านชั่งน้ำหนัก) และ
การว่าจ้างเอกชนมาดำเนินการปรับปรุงระบบทั้งหมด และเป็นผู้ลงทุนให้ทั้งหมด โดยที่
กยท. เป็นผู้ควบคุมขั้นตอนการดำเนินงานและจ่ายเป็นค่าจ้างให้ตามที่ตกลง
แต่เมื่อเปรียบเทียบพบว่าหาก กยท.ดำเนินการเองจะต้องใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่าหลายร้อยล้านบาท
ต้องของบประมาณจากส่วนกลาง และทำให้เกิดความล่าช้าในการแก้ปัญหา
กยท. จึงประกาศหาผู้สนใจให้เสนอวิธีการปรับปรุงระบบการจัดเก็บ Cess ในเดือน มกราคม
ปี 2561 ที่ผ่านมา
โดยมีสาระสำคัญเพื่อหาผู้ที่มีความสามารถในการลงทุน
ตั้งแต่จัดหาที่ดินบริเวณด่านต่างๆ ทั่วประเทศกว่า 17 ด่าน
ติดตั้งระบบเครื่องชั่งรถบรรทุกดิจิตอล
มีความรู้เรื่องการวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
เพื่อการเชื่อมต่อข้อมูลของการส่งออกยางทั้งระบบของหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบทั้ง
ได้แก่ กยท. กรมวิชาการเกษตร และกรมศุลกากร
โดยระบบต้องสามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่สำคัญของการส่งออกยาง
และนำข้อมูลที่ได้มาวางแผนการตลาดล่วงหน้า
ประเมินความเสี่ยงของผู้ส่งออกยางแต่ละราย
ซึ่งจะสามารถลดปัญหาการสูญเสียและรั่วไหลในเรื่องการจัดเก็บค่าธรรมเนียมลงได้
ผู้ว่าการ กยท. ย้ำว่าเจ้าหน้าที่ของ กยท.ยังทำหน้าที่รับเงินค่าธรรมเนียมผ่านระบบ
NSW เช่นเดิม
ในส่วนของอัตราค่าจ้าง
อาจแตกต่างกันได้ตามวิธีการที่ผู้รับจ้างแต่ละรายเสนอมาให้พิจารณาคัดเลือก
แต่เพดานสูงสุดต้องไม่เกินร้อยละ 5 ของค่าธรรมเนียมที่จัดเก็บได้
ซึ่งจะต้องเป็นธรรมทั้งกับ กยท. และผู้รับจ้าง จึงขอยืนยันว่า
โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของกองทุนพัฒนายางพารา
อย่างไรก็ตามนาย ธีธัช ได้เปิดชี้แจงที่มา เหตุผล
และแนวทางการดำเนินการอีกครั้ง
รวมทั้งตอบข้อซักถามร่วมกับผู้บริหารในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
โดยมีการถ่ายทอดสดและมีคลิปการชี้แจงแต่ละประเด็นคำถามใน YouTube และเพื่อยืนยันความโปร่งใส
ลดกระแสความไม่เข้าใจ
จึงมีคำสั่งให้ชะลอการดำเนินการรับข้อเสนอในการว่าจ้างเอกชนไปก่อน
เพื่อเปิดรับฟังความเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพิ่มเติม และนำแนวทางต่างๆ
ไปเสนอต่อคณะกรรมการ กยท. ในการประชุมประจำเดือนมีนาคม ที่จะถึงนี้ต่อไป
- Advertisement -
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น