ทำสวนปาล์มจำเป็นต้องพึ่ง “ตำราวิชาการ” เซียนปาล์มน้ำมัน
เคยบอกอย่างนั้น เพราะ “พืชน้ำมัน” สูง ตัวนี้ มีพัฒนาการค่อนข้างช้า แต่ใช้ธาตุอาหารสำหรับสร้างทะลายสูง
ดังนั้นจะทำสวนปาล์มให้สำเร็จ ได้ผลผลิตสูง “หลัง” ต้อง “พิง”
ข้อมูลทางวิชาการ
สวนปาล์มน้ำมันของ “หงส์ศิลาปาล์ม” ก็เช่นเดียวกัน
ถ้าใครรู้จักสวนปาล์มขนาดใหญ่ของ จ.กระบี่ รายนี้
ก็จะรู้จักผลงานเป็นอย่างดี แม้จะปลูกปาล์มหลายพันธุ์ แต่ทุกพันธุ์ที่ปลูกล้วนสมบูรณ์และให้ผลผลิตสูง
ส่วนสำคัญก็มาจาก การอ้างอิงการจัดการจากข้อมูลวิชาการนั่นเอง
เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกปลูกพันธุ์ปาล์มที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่
สภาพอากาศ และให้ผลผลิตสูง
เว็บไซต์ยางปาล์ม มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมสวนปาล์มของหงส์ศิลาปาล์มอีกครั้ง
ซึ่งเป็นปาล์มพันธุ์ยูนิวานิช พื้นที่ 400 ไร่ ใน อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ อายุ 4-5 ปี
ผลผลิตค่อยๆ ทะยานขึ้นตามวัย จาก ปีแรก 2 ตัน และคาดว่าจะได้ 4 ตัน/ไร่/ปี ใน 2561
นี้
เตียว ซุน ฮก ผู้จัดการฝ่ายสวน หงส์ศิลาปาล์ม |
เว็บยางปาล์มได้ข้อมูลจาก เตียว ซุน ฮก หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โกฮก” ผู้จัดการฝ่ายสวน และ กิตติชัย ก่ออ้อ รองผู้จัดการฝ่ายสวน ของ บริษัท หงส์ศิลาเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม จำกัด
พื้นเพของโกฮกเป็นชาวมาเลเซียเขาเล่าว่าตอนที่มาเมืองไทยช่วงแรกเห็นว่า
อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ดี มีปริมาณน้ำฝนถือว่าใช้ได้
เหมาะกับการปลูกปาล์มน้ำมัน กอปรกับมีโรงงานปาล์มน้ำมันของ บริษัท
ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ จึงตัดสินใจทำสวนปาล์มโดยทดลองใช้ปาล์มน้ำมันทั้งจากมาเลย์
และที่พัฒนาสายพันธุ์/ผลิตในเมืองไทย หนึ่งในนั้นคือ พันธ์ยูนิวานิช ลงปลูกกว่า
400 ไร่
“สมัยตอนที่มาใหม่ๆ เราก็เอาพันธุ์ปาล์มมาจากมาเลเซียด้วย
แล้วมาถึงปัจจุบันประเทศไทยก็มีสายพันธุ์ใหม่ๆ ขึ้นมาเยอะ มีของยูนิวานิช
เราก็เลยเลือกของยูนิวานิช เพราะรู้ว่าพันธุ์ปาล์มเค้าดีก็เลยเลือกปลูกยูนิวานิช
ประมาณ 400 กว่าไร่ ”
“ความแตกต่างระหว่างการทำปาล์มในไทยและมาเลเซีย คือ คือมาเลย์น้ำฝนจะดี
แต่ที่ดินจะสู้เมืองไทยไม่ได้ ที่ดินเมืองไทยจะดีกว่า
เรื่องฝนฟ้าอากาศนี่ประเทศไทยจะไม่สม่ำเสมอ แล้วก็แล้งนานเกินไป
ฝนตกก็ตกเยอะเกินไป แต่ถ้าฝนดีผลผลิตมันก็จะออกมาดีได้กว่านี้” โกฮก
เปรียบเทียบระหว่างปาล์มไทยและมาเลเซีย
━━━━━━━━━━━━━
สวนปาล์มขนาดใหญ่ “ปุ๋ย”
คือหัวใจสำคัญ
━━━━━━━━━━━━━
การใส่ปุ๋ยของหงส์ศิลาเน้นการใส่ปุ๋ยตามผลการวิเคราะห์ 3 ส่วน คือ
ตามผลวิเคราะห์ใบ ผลวิเคราะห์ดิน และใส่เพื่อชดเชยผลผลิตของปีที่ผ่านมา ทั้ง 3
ส่วน จะถูกนำมาคำนวณเป็นปริมาณธาตุอาหาร หรือปริมาณปุ๋ยที่จะใส่ของแต่ละปี
อย่างในปีนี้ สวนปาล์มของหงส์ศิลาจะใส่ปุ๋ยโดยแยกใส่ 7 ครั้ง โดยใช้แม่ปุ๋ย รวมๆ 12-13
กก./ต้น/ปี ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
- ใส่ 21-0-0 จำนวน 2 ครั้ง รวม 5 กก.
- ใส่ 0-0-60 จำนวน 2 ครั้ง รวม 5 กก.
- ใส่ ปุ๋ยกรีเซอไรด์ จำนวน 1 ครั้ง 1.5-2 กก.
- ใส่ 0-3-0 จำนวน 1 ครั้ง 1 กก.
- ใส่ โบรอน จำนวน 1 ครั้ง 150-200 กรัม
ผลผลิตสูง 4 ตัน/ไร่/ปี ในปีที่ 4
━━━━━━━━━━━━━
หลังปลูก 24 เดือน ได้ตัดครั้งแรก หลังจากนั้นเมื่ออายุประมาณ 2-3 ปี
ได้ผลผลิต 2 ตัน/ไร่/ปี, อายุ 3-4 ปี
ประมาณ 3 ตัน/ไร่ และในปีที่ 4-5 คาดว่าน่าจะได้ผลผลิต
4 ตัน/ไร่/ปี หงส์ศิลาปาล์มตัดปาล์มประมาณ 15 วัน/ครั้ง เน้นปาล์มคุณภาพ
ตัดเฉพาะทะลายที่สุดเท่านั้น เพราะมีแนวคิดว่าปาล์มดิบจะทำให้เปอร์เซ็นต์น้ำมันเฉลี่ยที่ได้ต่ำไปด้วย
ในส่วนของการดูแลจัดการสวนของหงส์ศิลาปาล์ม
ยางปาล์มออนไลน์ได้สัมภาษณ์พิเศษ กิตติชัย ก่ออ้อ เพื่อขยายความเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่ต้องใช้แม่ปุ๋ยและใช้ตามผลการวิเคราะห์ใบ
ผลการวิเคราะห์ดินและใส่เพื่อชดเชยผลผลิต ช่วยลดต้นทุนการทำสวนปาล์มของบริษัท
รวมถึงสวนของเกษตรกรได้ด้วยเช่นกัน
กิตติชัย ก่ออ้อ |
เลือกตัดทะลายสุกเต็มที่ มีลูกร่วง เปอร์เซ็นต์น้ำมันสูง |
แม้ว่าสวนปาล์มของหงส์ศิลาปาล์มจะไม่มีการให้น้ำเพิ่มเติมเนื่องจากภูมิประเทศไม่เหมาะสมที่จะสร้างระบบน้ำ
แต่ด้วยปริมาณน้ำฝนใน จ. กระบี่ถือว่ายังปลูกปาล์มน้ำมันได้ดีไม่มีปัญหา
กิตติชัยเล่าต่อไปว่าระดับความชื้นที่เหมาะสมนี้นอกจากจะมีผลต่อการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตของปาล์มน้ำมันแล้ว
ยังมีผลต่อการใช้ยากำจัดวัชพืชอีกด้วย
การใช้สารกำจัดวัชพืช ช่วยเรื่องปัญหาแรงงาน สำคัญตรงที่ต้องใช้ให้ถูกต้อง |
เทคนิคใช้สารกำจัดวัชพืชให้ปลอดภัยกับต้นปาล์ม
━━━━━━━━━━━━━
เนื่องจากหงส์ศิลาปาล์มเป็นสวนขนาดใหญ่หลักหลายพันไร่การกำจัดวัชพืชจึงจำเป็นต้องใช้สารเคมีเท่านั้น
ส่วนหนึ่งก็เพื่อลดต้นทุนแรงงาน กิตติชัยแนะนำให้ใช้สารเคมีประเภทพาราควอต
กำจัดวัชพืชปีละ 1-2 ครั้ง
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพบว่าไม่มีผลกระทบต่อดินและต้นปาล์ม
เทคนิคคือใช้ช่วงที่มีความชื้นเหมาะสม หรือฤดูฝนที่มีวัชพืชขึ้นมาพอประมาณถึงจะใช้
ห้ามใช้ฤดูแล้งเด็ดขาด เพราะถ้าใช้ไม่ถูกเวลาจะส่งผลกระทบต่อต้นปาล์มได้
วางกองทางเป็นรูปตัวซี เว้นทางเดินไว้ทำงานบริเวณโคนต้นได้ ทางใบจะช่วยประโยชน์หลายด้าน |
เทคนิควางทางใบรูปตัวซี
(C) เพิ่มจุลินทรีย์ในดิน
━━━━━━━━━━━━━
การวางกองทางใบเป็นรูปตัวซี (C) ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ในดิน
ช่วยปรับค่า pH ของดินให้เหมาะสม
เมื่อใส่ปุ๋ยบริเวณกองทางที่มีทั้งจุลินทรีย์ และความชื้นจะช่วยให้รากปาล์มดูดซึมสารอาหารได้เต็มที่
และทางใบยังช่วยป้องกันการชะล้างปุ๋ยไปกับน้ำในฤดูฝนเหมาะกับพื้นที่เนินเขาของสวนปาล์มหงส์ศิลาอีกด้วย
“เวลาที่เราวางทางใบหลังจากการตัดแต่ง
ก็ตัดย่อยสักทางใบทางละ 2-3 อัน จะย่อยเร็วกว่าจับมาวางทั้งอัน”
กิตติชัยพูดถึงวิธีการช่วยให้ทางใบและใบปาล์มย่อยสลายเร็ว
ปาล์มน้ำมันพันธุ์ ยูนิวานิช เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และให้ผลผลิตสูง |
เหตุผลที่เลือกพันธุ์ปาล์มน้ำมัน ยูนิวานิช
━━━━━━━━━━━━━
เตียว ซุน ฮก ให้เหตุผลว่า
เมื่อเข้ามาปลูกปาล์มในเมืองไทยก็เชื่อมั่นในพันธุ์ที่พัฒนาในเมืองไทยว่าต้นพันธุ์สามารถปรับตัวกับสภาพภูมิอากาศ สภาพภูมิประเทศได้ และผลออกมาก็เป็นที่น่าพอใจ การออกทะลายสม่ำเสมอดี ขนาดทะลายก็ประมาณ 10-15 กก. (อายุ 4-5 ปี ) ทะลายไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป ทางใบไม่ยาวเกินไป เหมาะสำหรับปลูกระยะ 9x9x9 เมตร ตัดทะลายง่ายเพราะก้านทะลายไม่สั้นเกินไป
จะเห็นได้ว่าปาล์มน้ำมัน พันธุ์ยูนาวานิช ของ หงส์ศิลาปาล์ม ค่อนข้างสมบูรณ์ ผลผลิตค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้นทุกปี แม้จะไม่มีระบบน้ำก็ตาม
ทั้งหมดเกิดจากการเลือกปลูกพันธุ์ปาล์มที่เหมาะสมกับพื้นที่ และดูแลเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ
โดยเฉพาะความต่อเนื่องของธาตุอาหาร ที่ให้ได้อย่างตรงจุด โดยวิเคราะห์จากใบปาล์ม
จากดินในสวน และยังให้ชดเชยผลผลิตที่ถูกตัดออกจากสวนในปีที่ผ่านมา และที่สำคัญ คือ
เลือกตัดเฉพาะปาล์มสุก เปอร์เซ็นต์น้ำมันสูงเท่านั้น
นับเป็นการทำสวนปาล์มได้อย่างถูกต้องและแม่นยำอย่างยิ่ง
ขอขอบคุณ
เตียว ซุน ฮก
กิตติชัย ก่ออ้อ
บริษัท หงส์ศิลาเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม จำกัด
ทีมงาน บริษัท ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน)
- Advertisement -
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น