หนอนปลอกศัตรูตัวเล็ก แต่ถ้าปล่อยให้ระบาด มีผลต่อการเจริญเติบโตของต้นปาล์มน้ำมัน ช่วงนี้มีข่าวระบาดหนักในหลายจังหวัดของภาคใต้ หนอนชนิดนี้คือ อะไร อันตรายอย่างไร และมีวิธีกำจัดอย่างไร ดูจากบทความนี้ พร้อมวิธีกำจัดจาก คุณกิตติชัย ก่ออ้อ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องปาล์มน้ำมัน จ.กระบี่
หนอนปลอก
ชื่อสามัญ The Case Caterpillar
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cremastopsyche pendula Joannis
ชื่อวงศ์ Psychidge
ชื่ออันดับ Lepidoptera
ชื่อสามัญ The Case Caterpillar
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cremastopsyche pendula Joannis
ชื่อวงศ์ Psychidge
ชื่ออันดับ Lepidoptera
👉ลักษณะการทำลาย
หนอนปลอกเล็กจะแทะผิว ทำให้ใบแห้งเป็นสีน้ำตาล และกัดทะลุใบเป็นรูและขาดแหว่ง ถ้ารุนแรงจะเห็นทางใบทั้งต้นเป็นสีน้ำตาลแห้ง ทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโตผลผลิตลดลง
👉รูปร่างลักษณะและชีวประวัติ
หนอนปลอกเล็กจะแทะผิว ทำให้ใบแห้งเป็นสีน้ำตาล และกัดทะลุใบเป็นรูและขาดแหว่ง ถ้ารุนแรงจะเห็นทางใบทั้งต้นเป็นสีน้ำตาลแห้ง ทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโตผลผลิตลดลง
👉รูปร่างลักษณะและชีวประวัติ
ไข่ สีครีม
รูปทรงกลมอยู่เป็นกลุ่ม วางไข่ในซากดักแด้ของตัวเมียเอง
และอยู่ภายในปลอกหุ้มอีกชั้นหนึ่ง ขนาดของไข่ 0.45 x 0.65 มม.
อายุไข่นับตั้งแต่ ตัวเต็มวัยถูกผสมและวางไข่ อยู่ภายในรังดักแด้
👉หนอน หนอนที่ฟักออกจากไข่ใหม่ ๆ
มีลำตัวสีน้ำตาลไหม้ หัวสีดำ ขนาดความยาวประมาณ 0.8-1 มม.
เวลาหนอนเคลื่อนไหวจะยกส่วนท้องขึ้นและแทะผิวใบผสมกับใยที่ออกมาจากปาก
สร้างปลอกห่อหุ้มตัวเอง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงปลอกมีสีน้ำตาล
ผิวเรียบ ขนาดปลอกมีความยาวตั้งแต่ 1.1-1.2 มม.
👉ลักษณะปลอก มีรูเปิด 2 ทางเช่นเดียวกับหนอนปลอกใหญ่ส่วนหัวของตัวหนอนจะโผล่ออกมาทางช่องเปิดส่วนฐานปลอก
ปลายปลอกเรียวแหลมมีรูเปิดไว้เพื่อให้หนอนขับถ่ายมูลออกมา หนอนวัยที่ 3 ส่วนหัวและลำตัวมีสีน้ำตาล หนอนจะสร้างปลอกหุ้มใหญ่ขึ้น และเริ่มนำเศษชิ้นส่วนของใบพืชแห้งชิ้นเล็กๆ
ปะติดกับปลอกหุ้มด้วย ทำให้ผิวปลอกเริ่มขรุขระ
👉การแพร่กระจายและฤดูการระบาด การแพร่กระจายของหนอนปลอกอาศัยแรงลมพัดพาหนอนปลอกขนาดเล็กซึ่งชอบสาวใยปล่อยตัว
ห้อยลงมาแกว่งไกวไปตามลม จากต้นหนึ่งไปสู่มะพร้าวต้นอื่นๆ หนอนปลอกจะระบาดในปีที่มีฤดูร้อนยาวนาน
👉การป้องกันกําจัด หากพบมีการระบาดให้ตัดใบปาล์มน้ำมันที่หนอนกินมาทําลายโดยการเผาทําลาย หรือใช้ไฟสุมเพื่อรมควัน หากพบมีการระบาดให้ตัดใบปาล์มาทําลายโดยการเผาทําลาย หรือใช้ไฟสุมเพื่อรมควันทําลายตัวหนอน หรือใช้กับดักแสงไฟล่อเพศผู้มาทําลายตัวหนอน หรือพ่นด้วยเชื้อแบคทีเรีย B.t หรือสารเคมีไซเพอร์เมทิน (CypermethinCypermethin) หรือคาร์บาริล (carbarylcarbaryl) เพื่อฉีดพน อัตราส่วนตามคําแนะนําในฉลากเพื่อควบคุมหนอน ปลอกเล็กไม่ ให้ระบาดต่อไป
━━━━━━━━━━━━━━━━━━
วิธีกำจัดหนอนปลอก
โดย กิตติชัย ก่ออ้อ
━━━━━━━━━━━━━━━━━━
👉กำจัดหนอนปลอกด้วยวิธี
วิธีฉีดพ่น
- 1.ไทอะมีทอกแซม+แลมบ์ดาไซฮาโลทริน 14.1+10.6%ZC อัตรา 15 cc ต่อน้ำ 20 ลิตร
- 2.คลอร์แรนทรานิลิโพรล+ไทอะมีทอกแซม 20+20%WG หรือ อัตรา 5 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
- 3.ฟลูเบนไดเอไมด์+ไทอะโคลพริด 24+24%SC อัตรา 5 ccต่อน้ำ 20 ลิตร
- 4.คลอร์ไพริฟอส+ไซเพอร์เมทริน 50+5%EC อัตรา 30 cc ต่อน้ำ 20 ลิตร
- 5.โพรฟีโนฟอส+ไซเพอร์เมทริน 40+4%EC อัตรา 30 cc ต่อน้ำ 20 ลิตร
สาเหตุที่เลือกตัวนี้เพราะยานี้ออกฤทธิ์ทั้งสัมผัสกับดูดซึม
และเนื่องจากเป็นยา 2 ตัวบวกกัน
จึงเพิ่มประสิทธิภาพการกำจัดแมลงได้ดีขึ้นครับ เมื่อเราพ่นถูกตัวแมลงจะตายหลังพ่นไม่เกิน
24 ชั่วโมง ส่วนที่มากินภายหลังจะตายภายใน 3 วัน
การพ่นสารต้องหา hot spot คือจุดระบาด
แล้วพ่นออกเป็นแนววงกว้างออกไปเป็นรัศมีโดยรอบ
ให้เกินจากต้นสุดท้ายที่ระบาดไปอีกประมาณ 10-20 เมตร จากการปฏิบัติเมื่อพ่นไปแล้ว
1 วัน ปรากฏว่าหนอนตายดีมากครับ
หลักการเลือกซื้อยาเมื่อชื่อสามัญเหมือนกัน
คือ เทียบราคาว่าเจ้าไหนถูกกว่ากัน สำคัญคือตัวสารเคมีครับ
ที่สำคัญคือผู้ปฏิบัติงานต้องสวมชุดป้องกันสารเคมีอย่างมิดชิดเพื่อความปลอดภัย
ที่สำคัญคือผู้ปฏิบัติงานต้องสวมชุดป้องกันสารเคมีอย่างมิดชิดเพื่อความปลอดภัย
สำหรับสวนปาล์มน้ำมันที่ฉีดพ่นไม่ถึงจะใช้วิธีการเจาะอัดยาเข้าโคนต้นปาล์ม
โดยการเจาะต้นแล้วใส่ยาที่มีชื่อสามัญว่า อีมาเมกตินเบนโซเอต 1.92%EC อัตรา 30-50 ccต่อต้น และ อัตรายาที่ใช้ก็ขึ้นกับขนาดความสูงของต้น
ยานี้สามารถอยู่ได้นานมากกว่า 3 เดือน
แต่ก็ยอมรับความเสี่ยงปาล์มเกิดแผล แต่จากที่เคยใช้วิธีนี้เมื่อหลายปีก่อน พบว่า
ไม่กระทบอะไรต่อต้นปาล์มเลย ระยะเวลาหลังเจาะใส่ยาแล้วไม่เกิน 10 วัน หนอนจะตายหมด ในการปฏิบัติครั้งนี้ผมใช้ยายี่ห้อโคลเลอร์
อัตรา 50 cc ต่อต้นโดยใช้วิธีการดังนี้
- 1.ทำการเจาะต้นปาล์มสูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร ความลึกและขนาดรูเจาะขึ้นกับอุปกรณ์ที่ใช้ โดยครั้งนี้เจาะต้นละ 1 รู เพื่อใส่ยาให้ได้ 50 cc ต่อต้น
- 2.ดูดยาใส่ให้ได้ 50 cc ต่อต้น แล้วอุดรูด้วยดินเหนียวเพื่อไม่ให้ยาไหลย้อนกลับออกมาได้
การเจาะอัดยาใส่โคนต้นนั้น หลักการเลือกต้นที่จะเจาะ คือ ต้องหา hot spot คือจุดระบาด แล้วเจาะต้นออกเป็นแนววงกว้างออกไปเป็นรัศมีโดยรอบ ให้เกินจากต้นสุดท้ายที่ระบาดไปอีกประมาณ 10-20 เมตรเป็นอย่างน้อย
หลักการเลือกซื้อยาเมื่อชื่อสามัญเหมือนกัน
คือ เทียบราคาว่าเจ้าไหนราคาถูก สำคัญคือตัวสารเคมี
━━━━━━━━━━━━
ข้อมูล
ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก กิตติชัย ก่ออ้อ
>>>https://web.facebook.com/groups/167383329952673/permalink/2170474239643562/
>>>https://web.facebook.com/groups/167383329952673/permalink/2170467729644213/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น