ปาล์มน้ำมัน

[ปาล์มน้ำมัน][bsummary]

ยางพารา

[ยางพารา][bsummary]

เทคนิคจากสวน

[เทคนิคจากสวน][twocolumns]

NEWS

[News][bleft]

SUPER FAMILY ปาล์มน้ำมันลูกผสมเทเนอร่า จากพ่อแม่พันธุ์โคลนนิ่ง (Semi Clonal) ผลผลิตสูงกว่าเดิม 15%

ถึงเวลาหรือยัง..!! ที่เกษตรกรควรมีปาล์มน้ำมันที่มีศักยภาพในการให้ผลผลิตมากขึ้น

เพราะเทคโนโลยี ความรู้ต่างๆ เรื่องการจัดปาล์มสวนปาล์มนั้นเราสามารถเรียนรู้ได้ทันกันหมดขึ้นอยู่กับความสนใจเอาใจใส่ของผู้คนที่ใฝ่หาความรู้

แต่เรื่องพันธุ์ปาล์มน้ำมันเป็นเรื่องของพันธุ์กรรมที่มีข้อมูลอยู่แล้วว่ามีศักยภาพสูงสุดในการให้ผลผลิตอยู่ประมาณเท่าไหร่ ซึ่งพันธุกรรมนี้เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เมื่อมีพันธุ์ดีเป็นทุนเดิมอะไรๆ ก็ดูจะง่ายขึ้น ยิ่งเกษตรกรท่านใดมีการดูแลที่ดีก็ยิ่งจะได้ผลตอบแทนกลับมามากตามความใส่ใจ
ยางปาล์มออนไลน์ได้พูดคุยกับ สุทธิศักดิ์ ยังวณิชเศรษฐ เจ้าของ ห้างหุ้นส่วน สุราษฎร์พันธุ์ปาล์ม จำกัด ผู้นำเข้าเมล็ดพันธุ์ปาล์มน้ำมันจากต่างประเทศรายใหญ่ของเมืองไทย จึงทราบว่าในต่างประเทศผู้ผลิตและพัฒนาสายพันธุ์ปาล์มน้ำมันรุ่นใหม่ก็ให้ความสำคัญกับศักยภาพของพันธุ์ปาล์มมากขึ้น เช่น ความทนโรค ทนต่อความแห้งแล้งมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันทั่วโลกให้ได้มากที่สุด

ยกตัวอย่างเมล็ดพันธุ์ปาล์มน้ำมันพันธุ์ล่าสุดที่สุราษฎร์พันธุ์ปาล์มนำเข้ามาและกำลังเป็นที่จับตามองของเกษตรกรทั่วโลก นั่นคือ SUPER FAMILY ของ บริษัท DAMI PNG (ประเทศปาปัวนิวกินี บริษัทชั้นนำระดับโลก )ซึ่งเป็นเมล็ดพันธุ์ปาล์มลูกผสมเทเนอร่า (DxP) ที่มาจากการคัดเลือกต้นพ่อ-แม่พันธุ์ที่ดีที่สุด ให้ลูกผลผลิตสูงที่สุด และสม่ำเสมอมากที่สุดมา “โคลนนิ่ง” (Semi Clonal)  เพื่อใช้ผลิตเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพนั่นเอง...เราไปดูรายละเอียดกันเลย 
คัดเลือกต้นแม่พันธุ์ที่ดีที่สุด ให้ลูกผลผลิตสูง มีความนิ่ง และสม่ำเสมอมากที่สุดมาโคลนนิ่ง เพื่อใช้ผลิตเมล็ดพันธุ์ SUPER FAMILY พันธุ์ปาล์มลูกผสมเทเนอร่า (DxP)
_________________________________________________
SUPER FAMILY มาจากการคัดเลือกคู่ผสมที่ดี ใช้พ่อ-แม่พันธุ์ที่ดีที่สุดมาโคลนนิ่ง (Semi Clonal) เพื่อให้ได้ต้นพ่อ-แม่พันธุ์ชุดใหม่ที่มีพันธุกรรม (ยีน : Gene) เดียวกับต้นเดิมทุกประการ เพื่อนำไปสู่การผลิตเมล็ดพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่มีความนิ่งและผลผลิตสูงกว่าการใช้พ่อ-แม่พันธุ์จากเมล็ดหลายชุด 

ว่าง่ายๆ คือ SUPER FAMILY จะเป็นเมล็ดพันธุ์ปาล์มน้ำมันชุดที่มาจากต้นพ่อ-แม่พันธุ์ที่มียีนเดียวกันทั้งหมด เพราะมาจากต้นพ่อ-แม่พันธุ์ที่เป็นโคลนนิ่งนั่นเอง

โดยทาง บริษัท DAMI PNG ผู้พัฒนาพันธุ์ได้ทดลองปลูกและศึกษาผลผลิตของชุดลูกหลานที่ได้รับการทดสอบในดินและปริมาณน้ำฝนที่หลากหลายตั้งแต่ปี 2550 ปลูกจำนวน 120 ต้น/เฮกตาร์ (เฉลี่ย 19 ต้น/ไร่) ระยะปลูกอยู่ที่ 9.5x9.5x9.5 เมตร ในแง่ผลผลิตพบว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 15จากค่าเฉลี่ยเดิมอยู่ที่ประมาณ 30 ตัน/เฮกตาร์ เพิ่มขึ้นมาเป็น 35 ตัน/เฮกตาร์ หรือคิดเป็น +15% ของผลผลิตในชุดก่อนหน้า 
แผนภูมิเปรียบเทียบผลผลิต
___________________________________________
SUPER FAMILY ให้ผลผลิตในปีที่ 3 ประมาณ 3 ตัน/ไร่/ปี คิดแล้วมากกว่ากลุ่มพ่อแม่พันธุ์เดิมประมาณ 15% แม้ว่าจะปลูกในระยะที่บริษัทแนะนำ 9.5x9.5x9.5 เมตร ก็ตาม เพราะนอกจากให้ผลผลิตสูงกว่าแล้วด้วยความที่พ่อ-แม่พันธุ์เป็นต้นโคลนนิ่งทั้งหมด ผลผลิตที่ออกมาจึงสม่ำเสมอกว่าการใช้แม่พันธุ์หลายชุดแน่นอน

“หลังจากทาง DAMI ทดสอบปลูกในพื้นที่ต่างๆ กันไป พบว่าในปีที่ 3 ให้ผลผลิตได้ถึง 3 ตัน/ไร่, ปีที่ 5 ได้ประมาณ 5-6 ตัน/ไร่ และจะสูงสุดเมื่อประมาณปีที่ 8-9 ได้ประมาณ 6 ตัน หลังจากนั้นผลผลิตลดลง แต่จะลดลงไม่มาก...ตรงนี้เป็นผลการทดลองปลูกที่น่าสนใจมากๆ เพราะเมื่อดูจำนวนต้นแล้วใช้แค่ 19 ต้น/ไร่เท่านั้น

“กล้าพันธุ์ปาล์ม
SUPER FAMILY
จำหน่ายอยู่ที่ 250 บาท/ต้น ซึ่งตอนนี้ทางสุราษฎร์พันธุ์ปาล์มได้เปิดให้ลูกค้าได้จับจองต้นกล้าเพื่อเตรียมปลูกในปี 2562 เรียบร้อยแล้ว” เจ้าของสุราษฎร์พันธุ์ปาล์มให้ข้อมูลเกี่ยวกับปาล์มน้ำมัน SUPER FAMILY
 
จากการให้ข้อมูลของสุทธิศักดิ์จึงทราบว่า SUPER FAMILY เป็นปาล์มน้ำมันพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวใน ปาปัวนิวกินี ในโซโลมอน อินโดนีเซีย แอฟริกา ฟิลิปปินส์ และในเมืองไทย สุราษฎรพันธุ์ปาล์มเป็นรายแรกที่นำเข้ามาในเมืองไทย

เขาเล่าต่อไปว่าปัจจุบันมีปาล์มน้ำมันสายพันธุ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมาจากความตั้งใจของนักพัฒนาสายพันธุ์ทั่วโลก กว่าจะออกมาเป็นพันธุ์ที่ได้คุณภาพตามเกณฑ์หรือเกินกว่ามาตรฐานไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ที่ยากกว่าคือผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์จะทำอย่างไรให้ได้ปริมาณเมล็ดให้เพียงพอกับความต้องการของเกษตรกรทั่วโลก 

ดังนั้นการเพิ่มจำนวนต้นพ่อ-แม่พันธุ์ด้วยเทคนิคเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อหรือว่าโคลนนิ่งน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
นอกจาก SUPER FAMILY แล้ว ปาล์มน้ำมันอีกสายพันธุ์หนึ่งที่น่าสนใจก็คือ ซีหราด กาโน (CIRAD Gano) ลักษณะพิเศษ คือ ป้องกันโรคร้าย ด้วยสายพันธุ์ต้านทานโรคกาโนเดอร์ม่า เนื่องจากปัจจุบันพบการระบาดของโรคกาโนเดอร์ม่า หรือโรคโคนเน่า ที่เกิดจากเชื้อรา Ganaderma boninense พื้นที่ที่พบการระบาดอย่างกว้างขวาง ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี กระบี่ ชุมพร และพังงา เป็นต้น

หนึ่งในวิธีการป้องกันโรคกาโนเดอร์ม่าที่ได้ผลเป็นที่ยอมรับในระดับสากลว่าเป็นวิธีการที่ยั่งยืน คือ การใช้สายพันธุ์ต้านทานโรคกาโนเดอร์ม่า ที่ได้รับการรองรับจากรัฐบาลอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นพื้นที่ระบาดรุนแรง คือ ซีราด กาโน ระยะปลูกแนะนำ 8.8x8.8x8.8 เมตร
“ต้องยอมรับว่าบ้านเรายังไม่ตระหนักถึงความรุนแรงของโรคกาโนเดอร์ม่า เพราะมีการระบาดเฉพาะในบางพื้นที่เท่านั้น หลายคนเห็นภาพตามโซเชียลต่างๆ แต่เมื่อยังไม่เกิดกับตัวเองก็ยังไม่เห็นพิษภัยของมัน แต่สำหรับบางคนที่เกิดโรคกาโนเดอร์ม่าในสวนเขาได้รู้จริงๆ ว่าในความเป็นจริงแล้วความเสียหายมันมากกว่าที่จินตนาการไว้

“สุราษฎร์พันธุ์ปาล์มเองก็ได้นำเข้าปาล์มนำมันพันธุ์ ซีหราด กาโน ที่สามารถต้านทานโรคกาโนเดอร์มาได้จริงและเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลกเข้ามาจำหน่ายเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้เกษตรกร ซึ่งราคาก็ไม่ได้สูงมากมายแต่มันคุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับการที่ปาล์มพันธุ์นี่ต่อต้านโรคกาโนได้” 
ซีหราด มิลเลนเนี่ยม
ซีหราด มิลเลนเนี่ยม อายุ 8 ปี
__________________________________________
ส่วนสายพันธุ์อื่นๆ ในกลุ่มของ ซีหราด สุราษฎร์พันธุ์ปาล์มก็มีจำหน่ายต่อเนื่อง เช่น ซีหราด มิลเลนเนี่ยม (CIRAD Millenium) มีลักษณะเด่น คือ ทางสั้น ต้นเตี้ย ทนแล้ง เป็นสายพันธุ์ที่มีความสม่ำเสมอสูงมาก และยังให้ผลผลิตสูงสม่ำเสมอตลอดอายุการเก็บเกี่ยว ไม่ต่ำกว่า 30 ปี 

จากข้อมูลในประเทศเองก็พบว่าสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดีแม้เป็นที่แล้ง แต่ก็ยังให้ผลผลิตดีมากกว่ากว่าเมื่อปลูกในที่ลุ่ม

ซีหราด เอลิท (CIRAD Elite) มีลักษณะเด่น คือ ทางสั้นกว่า ผลผลิต/ไร่มากกว่า ระยะปลูกแนะนำที่ 8.8x8.5x8.5  เมตร จะปลูกได้ 26 ต้น/ไร่ (แต่เกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกที่ 9x9x9 เมตร) ให้ผลผลิตมากกว่าซีหราด มิลเลนเนี่ยม 12-15% หรือเพิ่มขึ้น 1,080 กิโลกรัม/ปี
ซีหราด เอลิท อายุ 6 ปี
___________________________________________
สำหรับพันธุ์อื่นๆ ที่น่าสนใจก็มีไม่น้อย เช่น SUPER FAMILY, Deli Avros, La me’, Evolution Blue, Avalanche, Supreme, Spring, Kigoma จะเห็นว่าปีนี้มีชื่อสายพันธุ์แปลกๆ เข้ามาพอสมควร เนื่องจากบางสายพันธุ์ทางบริษัทผู้ผลิตได้เปลี่ยนชื่อทางการค้า ดังนี้
Avalanche = คอมแพ็ค ไนจีเรียแบล็ค
Supreme = เดลี่ คอมแพ็ค
Spring = เดลี่ ไนจีเรีย
Kigoma = แทนซาเนีย-อีโคน่า

สายพันธุ์ต่างๆ ที่สุราษฎร์พันธุ์ปาล์มได้ตัดสินใจเข้ามา ล้วนเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับมาตรฐาน ได้รับการยอมรับจากคนปลูกปาล์มทั่วโลก 
แต่อย่างไรก็ดีทางสุราษฎร์พันธุ์ปาล์มก็แนะนำว่าลูกค้าที่ต้องการปลูกปาล์มนั้น อยากจะให้เข้ามาคุยมาปรึกษากันว่าสภาพดิน สภาพอากาศ ปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ของท่านเหมาะสมกับพันธุ์ปาล์มชนิดใดบ้าง เพราะต้องยอมรับว่าปัจจัยทางธรรมชาติเหล่านี้มีผลกับการปลูกปาล์มเป็นอย่างมาก

เกษตรกรบางท่านจะมีกำลัง-มีทุนในการทำระบบน้ำนั้นดีมากๆ ดังนั้นถ้าเรามีความพร้อม และที่ดินของเรามีลักษณะจำเพาะแบบต่างๆ เมื่อเราทราบตรงนี้ก็สามารถเลือกพันธุ์ปาล์มให้เหมาะสมได้ เมื่อมันมีความเหมาะสมในปัจจัยแวดล้อมการดูแลสวนปาล์มของเกษตรกรก็จะง่ายขึ้นนั่นเอง

ขอขอบคุณ
ห้างหุ้นส่วน สุราษฎร์พันธุ์ปาล์ม จำกัด 
97 หมู่ 5 ต.ท่าอุแท อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี 
สนใจสายพันธุ์ไหน หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ โทร 089-873-7757 081-979-1121 Line ID : chabasuratpalm

- Advertisement -

ไม่มีความคิดเห็น:

บทความที่ได้รับความนิยม