มีรายงานว่าน้ำยาง 1 ตันที่ถูกกรีดออกไปสวนยาง ดินจะสูญเสียธาตุอาหารไนโตรเจน
20 กิโลกรัม ฟอสฟอรัส 5 กิโลกรัม
โพแทสเซียม 25 กิโลกรัม และแมกนีเซียม 5 กิโลกรัม
ดังนั้นการใส่ปุ๋ยจึงจำเป็นต้องใส่เพื่อ
“ชดเชยธาตุอาหาร” ที่สูญเสียไปจากดิน จากน้ำยางที่ถูกกรีดไป และจากการติดไปกับส่วนต่าง
ๆ ของต้นยาง เมื่อโค่นและนำออกจากแปลง
การใส่ปุ๋ยจึงเกี่ยวข้องกับการให้ธาตุอาหารอย่างเพียงพอต่อการสร้างน้ำยาง
และการสร้างมวลของต้นในแต่ละระยะการเจริญเติบโต
นอกจากนี้ยังต้องใส่เพื่อปรับปรุงบำรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์
ให้ดินมีธาตุอาหารในปริมาณและสัดส่วนที่เหมาะสมสำหรับพืชอย่างยั่งยืน
ขุดหลุมใส่ปุ๋ย ช่วยลดการชะล้างปุ๋ยในสวนยางที่มีลักษณะลาดชันได้ |
อย่างไรก็ตามปุ๋ยเคมีเมื่อใส่ลงไปในดิน
ต้นยางจะดูดกินไม่ได้ทั้งหมด เนื่องจากปุ๋ยจะสูญเสียไปโดยปัจจัยต่างๆ เช่น
สูญเสียไปพร้อมกับการกร่อนของดิน (erosion) สูญเสียไปโดยการชะละลาย (leaching) สูญเสียไปพร้อมกับน้ำที่ไหลบ่า (run off) สูญเสียไนโตรเจนไปในรูปก๊าซจากการระเหยของแอมโมเนียมจากปุ๋ยแอมโมเนียมต่างๆ
และยูเรีย (การระเหิด) เป็นต้น
ดังนั้นการใส่ปุ๋ยให้ยางพารายังต้องคำนึงด้วยว่า
ใส่อย่างไรต้นยางจึงจะสามารถดึงดูดไปใช้ได้มากที่สุดและสูญเสียน้อยที่สุด
คำแนะนำการใส่ปุ๋ยยางพาราอย่างถูกวิธี
👍 1. ถูกสูตร (สูตรเหมาะสม) คือ
เลือกใช้สูตรปุ๋ยให้ถูกกับพืช คือ ต้องเป็นสูตรปุ๋ยสำหรับยางพารา และเป็นสูตรที่ถูกกับระยะของต้นยาง
เป็นยางก่อนเปิดกรีดหรือยางหลังเปิดกรีด และถูกกับชนิดของดิน ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี
ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมี หรือปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน (ปุ๋ยสั่งตัด) ซึ่งเป็นการใส่ปุ๋ยที่ตรงกับความต้องการของยางพารา
👍 2. ถูกเวลา (ช่วงเวลาที่เหมาะสม) คือ การใส่ปุ๋ยให้ถูกช่วงเวลาตามที่ต้นยางต้องการและมีความพร้อมมากที่สุด
รากพืชสามารถดูดกินไปใช้ได้มากที่สุด ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการใส่ปุ๋ยยาง
คือช่วงที่ดินมีความชื้นพอเหมาะ ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ หรือปุ๋ยชีวภาพก็ตาม
เพื่อปุ๋ยจะได้ละลายและแตกตัวอยู่ในรูปที่รากพืชสามารถดูดกินได้ดินต้องไม่แห้งหรือชื้นแฉะเกินไป
และต้องไม่ใส่ปุ๋ยในช่วงที่มีฝนตกหนัก ในยางหลังเปิดกรีด
ควรใส่ปุ๋ยช่วงผลิใบใหม่หลังจากใบร่วง ในขณะใบเพสลาด
👍 3. ถูกอัตรา (ปริมาณเหมาะสม) คือ ปริมาณปุ๋ยที่ใส่ต่อต้นต้องเพียงพอและพอดีกับความต้องการของต้นยาง
หลังจากที่ได้สูตรของปุ๋ยที่จะใส่แล้วไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยรองกันหลุมปลูกยาง
หรือแม้แต่พวกสารปรับปรุงต่าง ๆ เช่น ปูนขาว ปูนโดโลไมท์ ก็ตาม ต้องใส่ให้ถูกอัตราด้วย
การใส่ถูกอัตราคือ ใส่ในปริมาณที่เหมาะสมไม่มากหรือน้อยเกินไป
โดยคำนึงถึงปริมาณที่ต้นยางต้องการและมีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ
การใส่ปุ๋ยมากเกินไปไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมีหรือสารปรับปรุงดินอาจเกิดการเป็นพิษต่อต้นยางได้
และยังทำให้ต้นทุนการผลิตสูง
ส่วนการใส่ปุ๋ยน้อยเกินไปก็จะทำให้ต้นยางได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
ต้นยางไม่สมบูรณ์ผลผลิตต่ำ ต้นยางไม่แข็งแรง อ่อนแอต่อโรค
การใส่ปุ๋ยต้นยางเล็ก รูป A ใส่รอบโคนต้นรัศมีรอบทรงพุ่มใบ B ใส่แบบขุดหลุม 2 หลุม/ต้น |
👍 4. ถูกวิธี (วิธีใส่เหมาะสม) คือ ใส่ปุ๋ยให้พืชตรงจุดที่พืชสามารถดึงดูดไปใช้ประโยชน์ได้ง่ายและเร็วที่สุด ขึ้นอยู่กับประเทของปุ๋ยที่ใส่ด้วย โดยทั่วไปถ้าเป็นปุ๋ยเคมี จะแนะนำให้ใส่ให้พืชในบริเวณรอบทรงพุ่มห่างจากโคนต้นพืชประมาณ 30-60 เซนติเมตร ซึ่งเป็นบริเวณที่มีรากฝอย ซึ่งเป็นรากที่ใช้หาอาหาร
ต้นยางเล็ก แนะนำให้ใส่ปุ๋ยในร่องเป็นวงกลมรอบๆ
ลำต้นตามบริเวณทรงพุ่ม แล้วเกลี่ยดินกลบปุ๋ย เมื่อต้นยางมีอายุ 2 ปีขึ้นไป ให้ใส่ปุ๋ยโดยโรยเป็นแถบ
2 ข้างแถวยางตามบริเวณทรงพุ่มของต้น แล้วเกลี่ยดินกลบให้ปุ๋ยอยู่ใดผิวดิน
ในพื้นที่ลาดชันและพื้นที่ที่มีฝนตกซุกติดต่อกันเป็นเวลานาน
แนะนำให้ใส่โดยขุดหลุมลึกประมาณ 5-10
เซนติเมตร จำนวน 2 หลุมต่อต้น
เพื่อลดการชะล้างปุ๋ย
การใส่ปุ๋ยยางก่อนเปิดกรีดอายุ 2 ปีขึ้นไป โดยโรยเป็นแถบ 2 ข้างแถวยาง บริเวณทรงพุ่มใบยาง |
ต้นยางหลังเปิดกรีด
แนะนำให้ใส่โดยหว่านระหว่างแถวหรือโรยบริเวณกึ่งกลางแถวยาง ควรเกลี่ยใบยางให้เป็นแนวก่อนใส่ปุ๋ยแล้วคราดกลบ
หากโรยปุ๋ยลงระหว่างร่องแถวยาง แต่ไม่โกยใบยางออกธาตุอาหารจะละลายลงสู่ดินได้ซ้ำ
เป็นไปได้เพียงแค่รอฝนตกลงมาเพื่อให้ปุ๋ยละลายและซึมลงสู่ดิน
และหากฝนไม่ตกปุ๋ยจะเกิดการสูญเสียไปโดยกระบวนการต่างๆ ทางเคมีเสียก่อนที่พืชจะดูดกินได้ทัน
การใส่ปุ๋ยจึงควรโกยใบยางบริเวณนั้นออกไปจนเห็นชั้นดินและโรยปุ๋ยลงไป
หลังจากนั้นให้เอาใบยางกลบ หรืออาจใสโดยขุดดินฝังกลบที่ระดับความลึก 5-10 เซนติเมตร ส่วนในกรณีที่ระหว่างแถวยางเป็นร่องระบายน้ำ
ให้ใส่ปุ๋ยหางจากโคนต้นยางประมาณ 2-3 เมตร
ถ้าพื้นที่ลาดเอียง หรือสูงๆ ต่ำๆ
เป็นลอนลาดควรขุดหลุมแล้วฝังกลบเพื่อป้องกันปุ๋ยถูกชะล้างไม่ควรใส่ปุ๋ยบริเวณโคนต้นยาง
เนื่องจากรากฝอยบริเวณใกล้ๆ ลำต้นส่วนใหญ่เป็นรากแก่มีศักยภาพในการดูดธาตุอาหารต่ำมาก
การใส่ปุ๋ยต้นยางหลังเปิดกรีด โดยใส่เป็นแถบระหว่างแถวยาง |
ผลของการใส่ปุ๋ยที่ถูกต้อง
การใส่ปุ๋ยที่ไม่ถูกสูตร
ไม่ถูกอัตรา ไม่ถูกเวลา และไม่ถูกวิธี นอกจากจะทำให้ต้นยางไม่สามารถดูดกินแร่ธาตุที่เป็นสารอาหารได้เต็มที่ตรงตามความต้องการแล้วยังทำให้เสียเงิน
เสียเวลา และไม่ได้ผลผลิตตามต้องการ
ในขณะที่การใส่ปุ๋ยยางที่ถูกสูตร
ถูกอัตรา ถูกเวลา และถูกวิธี จะทำให้ต้นยางสมบูรณ์ จำนวนใบหนาแน่น ผลัดใบช้า
ผิวเปลือกไม่แห้งกร้าน เปลือกนิ่ม กรีดงาย น้ำยางดี เนื้อยางแห้ง (DRC) สูง
และสามารถเพิ่มวันกรีดในปีนั้นได้อีกด้วย
ที่มา :
👉 เอกสารข้อมูลวิชาการยางพารา
การยางแห่งประเทศไทย
👉 วารสารยางพารา ฉบับ ตุลาคม – ธันวาคม 2562 การยางแห่งประเทศไทย
- Advertisement -
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น