ถ้าพูดถึงชาวสวนปาล์มที่ประสบความสำเร็จด้านการทำผลผลิตสูง แล้วต้องยกตัวอย่างขึ้นมาได้สัก 1 คน หนึ่งในนั้นน่าจะมีชื่อของ ลุงประสงค์ หอมสนิท เจ้าของสวนปาล์ม ใน อ.ปะทิว จ.ชุมพร
เว็บยาง&ปาล์ม มีโอกาสไปเยี่ยมชมสวนปาล์มของลุงประสงค์ก็หลายครั้ง และวันนี้ก็ได้นำ 4 วิธีปลูกปาล์มให้ได้ผลผลิตสูง จากประสบการณ์ ลุงประสงค์ หอมสนิท มาบอกเล่าให้ชาวสวนปาล์มทั้งมือใหม่มือเก่าได้ฟังไปพร้อมๆ กัน
1 การเลือกพันธุ์ปาล์มน้ำมัน : เลือกสายพันธุ์ที่ดกที่สุด ดีที่สุด
จะรู้ได้อย่างไรว่าพันธุ์ไหนดีที่สุด ลุงประสงค์ตอบซื่อๆ ว่า “ไปดูคนที่เขาปลูกก่อน
พันธุ์ไหนดีก็เอาพันธุ์นั้น เขาจองที่ไหนก็ไปจองที่นั่น”
2 ความเหมาะสมของพื้นที่ :
แม้ว่าปาล์มน้ำมันจะปลูกได้ทั้งบนที่สูงและที่ลุ่ม สามารถให้ผลผลิตได้ทั้ง 2 แบบ
แต่ปริมาณผลผลิตที่ได้อย่างไรก็ไม่เหมือนกัน
จะสังเกตได้ว่าปลูกปาล์มบนที่เนินสูงปาล์มก็อยู่ได้ ให้ผลผลิตได้
แต่น้อยกว่าบริเวณที่เป็นที่ลุ่ม “อยู่ที่สูงผลกำไรต่ำ อยู่ที่ต่ำผลกำไรสูง”
“ปาล์มน้ำมันชอบน้ำ – ชอบแดด บนยอดให้มีแดด ใต้โคนให้มีน้ำ” นี่เป็นอีกคำจำกัดความที่ลุงประสงค์ให้มา และอธิบายต่อว่าปาล์มน้ำมันชอบน้ำ แต่ไม่ชอบน้ำขัง หากพื้นที่ใดแล้งให้ทำระบบน้ำในสวนจะดียิ่งขึ้น ได้ผลผลิตสูงขึ้น
3 ระยะห่างในการปลูกที่เหมาะสม : ระยะห่างในการปลูกปาล์มน้ำมันนี้สัมพันธ์กับปริมาณแสงแดดที่ต้นปาล์มได้รับ
แน่นอนว่า ไม่ว่าจะปลูกระยะใดปาล์มน้ำมันก็ได้แสงแดดจากด้านบน แสงแดดเข้ามาที่ยอดทั้งนั้น
แต่ระยะที่จะทำให้แสงแดดส่องลงมาถึงโคนต้นต้องไม่น้อยกว่า 9 เมตร
เพราะเมื่อก่อนปลูกปาล์มน้ำมันที่ระยะ 9x9x9 เมตร ลุงสังเกตว่าเมื่อปาล์มอายุมากขึ้นแสงแดดส่องไม่ถึงพื้นดินผลผลิตปาล์มน้ำมันก็จะลดลง
มีข้อดีแค่เฉพาะหญ้าไม่ขึ้นเท่านั้น
ซึ่งข้อดีที่ว่านี้ไม่ตอบโจทย์การทำสวนปาล์มให้ได้ผลผลิตสูงของลุงประสงค์
ปาล์มรุ่นใหม่ๆ ที่ปลูกลุงเลือกใช้ระยะปลูก 10x10x10 เมตร เพื่อให้แสงแดดส่องเข้าถึงโคนต้นให้มากที่สุด
อย่าคาดหวังกับแดดที่ยอดเพียงอย่างเดียว แสงแดด อุณหภูมิความร้อนที่ส่องลงมาถึงพื้นดินใต้โคนต้นนั้นมีผลให้ปาล์มของลุงประสงค์ออกทะลายดีกว่าเมื่อก่อนที่ใช้ระยะปลูก
9x9x9 เมตร
สำหรับเกษตรกรที่ปลูกระยะ 9x9x9 เมตรไปแล้วสังเกตว่าปาล์มไม่งาม ไม่ค่อยมีแดด
แก้ไขได้ด้วยการหมั่นตัดแต่งทางใบอย่าให้มีมากเกินไป หลายๆ
ท่านอาจกังวลว่าการไว้ทางใบน้อยจะทำให้ปาล์มคอลีบ แต่จากประสบการณ์ 10 กว่าปี
ของลุงประสงค์ พิสูจน์แล้วว่าหากให้ปุ๋ว บำรุงต้นปาล์มให้ดีปาล์มจะไม่คอเรียวลีบเล็กแน่นอน
สามารถพิสูจน์ได้ด้วยตาตัวเองที่สวนปาล์มของลุงประสงค์
4 การดูแลอย่างทั่วถึง : “ปาล์มน้ำมันปลูกแล้วต้องดูแลให้ทั่วถึง
ต้องตัดหญ้า แต่งทาง ใส่ปุ๋ยสม่ำเสมอ อย่าปล่อยปะละเลย เพราะอะไร เพราะว่าเราเป็นเจ้าของสวน
จะเอาผลผลิตจากเขาต้องดูแลเขาให้ดี”
ปาล์มน้ำมันเป็นพืชที่มีอายุยืนยาว
ปลูกไปแล้วใช้เวลาหลายปีกว่าจะให้ผลผลิต หากเจ้าของสวนดูแลเอาใจใส่ดี 2
ปีก็จะเริ่มได้ตัดผลผลิต เริ่มมีรายได้เข้ามา ได้ค่าฉีดยา ค่าตัดหญ้า ปีที่ 3
รายได้ก็จะเริ่มขยับขึ้น ปีที่ 4 ก็เพิ่มขึ้นอีก ถึงปีที่ 5
ก็จะได้ผลผลิตเต็มที่ไปจนถึงปีที่ 12
จะเป็นช่วงที่ได้ผลผลิตสูงสุด เรียกว่าได้ดั่งใจทุกอย่าง
แต่พอถึงปีที่ 13, 14 , 15 ขึ้นไปแล้วผลผลิตจะเริ่มลดลง เป็นช่วงเวลาของการวัดใจว่าเจ้าของสวนจะใจถึงขนาดไหน เพราะตอนที่เป็นปาล์มเล็กใส่ปุ๋ยต้นละ 3-4 กก. พอเป็นปาล์มใหญ่ต้องใส่ต้นละ 5 กก./ครั้ง ปีละ 3 ครั้ง หรือประมาณ 15 กก./ต้น/ปี
ถ้ามองในมุมของลุงประสงค์แล้ว ถ้าปาล์มราคาสูงอย่างปัจจุบัน (6-7
บาทกว่า) ตัดมา 1-2 ทะลายก็ได้ค่าบริหารจัดการทั้งหมดคืนแล้ว ที่เหลือบนต้นคือกำไร
เราเป็นเกษตรกร เราก็ต้องพิจารณาว่าต้นทุนอะไรที่ควรลด อย่างของผมยอมรับว่าใส่ปุ๋ยมาก แต่ใส่ปุ๋ยมากหญ้าใต้โคนมันตายหมด ไม่ต้องจ้างคนตัดหญ้าประหยัดไปได้ แต่ในขณะที่ใส่ปุ๋ยมากปาล์มก็ดก ก็มีรายได้เพิ่มเข้ามาอีก กลายเป็นผลดีกับเราซะอีก
ลุงประสงค์เผยวิธีคิดจากประสบการณ์ตรง
จับใจความได้ว่า ในมุมมองของลุงประสงค์ การใส่ปุ๋ยให้ปาล์มมาก
ให้เพียงพอกับความต้องการของต้นปาล์มน้ำมันดีกว่าไปหาวิธีลดต้นทุนด้านอื่นๆ
การทำสวนปาล์มปกติกำไรจะอยู่ที่ 3 เท่า เช่น ลงทุนไป 1 แสน
ต้องได้กลับมา 3 แสน แต่จากวิธีการของลุงๆ ได้กลับมา 4 แสน เพราะงานในสวนลุงประสงทำเองแทบทั้งหมด
จ้างแรงงานเฉพาะบางอย่างเท่านั้น
ด้วยเทคนิคนี้ทำให้ลุงประสงค์มีปาล์มตัดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเดือนเมษายน พฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม ที่ผลผลิตพีคสุดๆ ใน 100 ไร่ ตัดปาล์มได้ถึง 60 ตัน/เดือน แต่ถ้าเป็นเดือนอื่นๆ ผลผลิตจะอยู่ที่ 20-30 ตัน/เดือน พร้อมบอกอีกว่าปาล์มในสวนไม่ได้ออกพร้อมกันทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีปาล์ม 10 ต้น ช่วงหนึ่งเราอาจจะแทงได้ 7 ต้น ส่วนอีก 3 ต้นที่ยังไม่ออกก็ไปออกทีหลัง แบบนี้เกษตรกรจึงได้ตัดปาล์มทั้งปี แต่ละช่วงมากน้อยต่างกันเป็นเรื่องปกติ แต่การดูแลจัดการสวนนั้นเจ้าของสวนต้องทำอย่างต่อเนื่องทั้งปีเพื่อให้ได้ผลผลิตต่อเนื่องทั้งปีนั่นเอง
.
ขอขอบคุณ
นายประสงค์ หอมสนิท
ต.ดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น