การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เดินหน้าสนับสนุนการทำเกษตรชีวภาพ ปรับแนวทางใช้ปุ๋ยปลูกแทนด้วยยางพันธุ์ดีใหม่ ลดปริมาณปุ๋ยเคมี ใช้ปุ๋ยอินทรีย์เพิ่ม โดยไม่กระทบต่อการเจริญเติบโตของต้นยาง ลดต้นทุนการผลิต ตามนโยบาย BCG โมเดลของกระทรวงเกษตรฯ พร้อมรับมือวิกฤตการขาดแคลนปุ๋ยเคมีและราคาที่เพิ่มสูงขึ้น
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ราคาปุ๋ยเคมีที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการขาดแคลนเคมีที่นำมาเป็นส่วนผสม ทำให้ราคาแม่ปุ๋ยสูตรต่างๆ ปรับราคาสูงขึ้นจากเดิม เพื่อลดผลกระทบดังกล่าว กยท.ได้มีแนวทางการบริหารจัดการปุ๋ยในปีรอบต้นฤดูฝนปี 2565 ดำเนินการจัดหาปุ๋ยให้เกษตรกรผู้รับการปลููกแทนด้วยยางพันธุ์ดี
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย |
ส่วนปัญหาปุ๋ยเคมีขาดแคลน
แก้ไขโดยปรับลดอัตราการใส่ปุ๋ยเคมีลงครึ่งหนึ่งเพื่อให้สามารถจัดหาปุ๋ยได้ง่ายขึ้นและเพียงพอกับความต้องการ
ร่วมกับใส่ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานตามหลักวิชาการในอัตรา 2 กิโลกรัม/ต้น/ปี
จากเดิมที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในอัตรา 1 กิโลกรัม/ต้น/ปี
ซึ่งมีหลักฐานทางวิชาการยืนยันว่า
จะไม่กระทบต่อการเจริญเติบโตของต้นยาง
สำหรับปุ๋ยอินทรีย์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานที่จะต้องจัดหาเพิ่มขึ้นนั้น สามารถจัดหาได้ง่ายภายในประเทศ
มีปริมาณเพียงพอกับความต้องการอย่างแน่นอน
สอดคล้องกับการทำเกษตรชีวภาพ ตามนโยบาย BCG MODEL ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การทำเกษตรกรรมปลอดภัย ลดการใช้สารเคมี ไร้สารพิษตกค้าง และต้นทุนต่ำลงจากการลดการใช้สารเคมีในการทำเกษตรกรรม ตั้งแต่การบำรุงพืชด้วยปุ๋ยชีวภาพและวิธีการกำจัดศัตรูพืชด้วยสารชีวภาพ
ผู้ว่าการ กยท.
กล่าวเพิ่มเติมว่า กยท.จะเร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้เกษตรกรที่รับการปลูกแทนด้วยยางพันธุ์ดีอย่างทั่วถึงในวิธีการใส่ปุ๋ยและอัตราการแนะนำใหม่
ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยาง
ลดผลกระทบจากวิกฤติการณ์ปุ๋ยเคมีที่มีราคาแพงและขาดแคลนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อีกทั้งยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์เกษตรอินทรีย์ และนโยบายการทำเกษตรอย่างยั่งยืนของรัฐบาลด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น