ความเป็นกรดด่างของดิน มีความสำคัญอย่างมากต่อการเจริญเติบโตของพืช ดินที่มีปฏิกิริยาเป็นกรดมากๆ พืชจะไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควร เนื่องจากธาตุอาหารในดินที่เป็นประโยชน์ต่อพืชบางชนิดจะเปลี่ยนไปอยู่ในรูปที่พืชไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ หรืออาจมีธาตุโลหะบางชนิดที่ละลายออกมามากจนถึงระดับที่เป็นพิษต่อพืช
ความเป็นกรดเป็นด่าง
นิยมบอกเป็นค่าพีเอช (pH) ซึ่งมีค่าอยู่ระหว่าง
1-14 ค่าที่เป็นกลาง คือ 7 ถ้าค่าพีเอชต่ำกว่า
7 ถือว่าดินมีสภาพเป็นกรด และถ้าพีเอชต่ำกว่า 4 ถือว่าดินมีสภาพเป็นกรดรุนแรงมาก ส่วนค่าพีเอชสูงกว่า 7 จัดว่าเป็นดินด่าง
ความกว้างของแถบที่ระดับพีเอช
แสดงปริมาณเชิงเปรียบเทียบถึงความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารต่างๆ ในดิน
ดินที่มีพีเอช 6-7 ความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารในดินมีอยู่ในปริมาณที่เหมาะต่อการเจริญเติบโตและการสร้างผลผลิตของพืช
ในสภาพดินเป็นกรด ปริมาณธาตุบางชนิด อาทิ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม กำมะถัน แคลเซียม และแมกนีเซียม จะมีปริมาณต่ำ ตัวอย่างเช่น เมื่อพีเอชต่ำกว่า 6 ไนโตรเจนและกำมะถันที่เป็นประโยชน์ต่อพืชเริ่มลดลง เมื่อพีเอชต่ำกว่า 4 ปริมาณไนโตรเจนและกำมะถันจะมีปริมาณน้อยมาก
ทั้งนี้
ระดับความเป็นกรดไม่ได้มีผลโดยตรงต่อปริมาณไนโตรเจนและกำมะถันในดิน
แต่เกี่ยวพันในทางอ้อมกับกิจกรรมจุลินทรีย์ในดินที่เป็นตัวกำหนดความเป็นประโยชน์ของธาตุเหล่านี้ในดิน
เมื่อดินเป็นกรดจัด
กิจกรรมของจุลินทรีย์จะเกิดขึ้นได้ช้ามากทำให้การย่อยสลายอินทรียวัตถุและการปลดปล่อยธาตุอาหารลงสู่ดินเกิดขึ้นได้น้อย
ปริมาณไนโตรเจนและกำมะถันที่เป็นประโยชน์ต่อพืชจึงต่ำ
ในขณะที่จุลธาตุบางชนิด เช่น เหล็ก
เป็นต้น จะมีอยู่ในปริมาณมากในดินที่เป็นกรดจัด โดยเฉพาะเมื่อพีเอชต่ำกว่า 5 การเจริญเติบโตของพืชอาจจะได้รับผลกระทบจากปริมาณธาตุอาหารที่มากเกินไป
จนอาจเป็นอันตรายต่อการเจริญเติบโตของพืชได้
ในสภาพดินเป็นด่าง ระดับของธาตุไนโตรเจน แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก มีในปริมาณต่ำ เช่น ปริมาณไนโตรเจนจะลดลงเมื่อดินมีพีเอชสูงกว่า 8 ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมของจุลินทรีย์ในการย่อยสลายและปลดปล่อยไนโตรเจนลงสู่ดิน
ในขณะเดียวกัน
ปริมาณแคลเซียมจะลดลงมาก เมื่อดินที่มีพีเอชสูงกว่า 8.5 เนื่องจากดินจะมีประจุบวกที่แลกเปลี่ยนได้ส่วนใหญ่เป็นโซเดียม
ทำให้ปริมาณแคลเซียมมีน้อยลง ในขณะที่ธาตุฟอสฟอรัส โพแทสเซียม กำมะถัน โบรอน
โมลิบดีนัม มีอยู่ในปริมาณที่สูง
จากความสัมพันธ์ระหว่างพีเอชและปริมาณธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ในดินดังกล่าว
การใช้วัสดุปรับปรุงดิน เช่น วัสดุปูน จะช่วยยกระดับพีเอชของดินให้สูงขึ้น
ลดความรุนแรงของกรด
จะช่วยเพิ่มความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารและทำให้เกิดความสมดุลของธาตุอาหารต่างๆ ในดิน
โดยเฉพาะไนโตรเจน ฟอสฟอรัส แคลเซียม แมกนีเซียม เป็นต้น
นอกจากนั้นยังช่วยลดธาตุโลหะบางชนิด เช่น เหล็ก อะลูมินัม เป็นต้น ในดิน
ซึ่งมีอยู่ในปริมาณมากเกินไปในสภาพที่ดินเป็นกรด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น