ปลูกโก้โก้ ในสวนยางพารา จ.ตรัง 16 ไร่ ทำเงินเพิ่ม 20,000 บาท/เดือน
เกษตรกรชาวสวนยางพารา ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง พาชมแปลงโกโก้ที่ปลูกร่วมยางเอาไว้ในพื้นที่ว่างกลางร่องยางพารา เนื้อที่สวนยางทั้งหมด 16 ไร่ แต่ปลูกโกโก้แซมไว้ จำนวน 400 ต้น รวมประมาณ 6 ไร่ ที่กำลังออกผลผลิตดกเต็มต้น ทั้งที่สุกเต็มที่กำลังเก็บเกี่ยวและผลแก่จัดที่รอการเก็บ
นายเวียน ศรีนุ่น อายุ 67 ปี เจ้าของสวน บอกว่า ได้ไปศึกษาดูงานกับเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง อำเภอสิเกา ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี 2561 จากนั้นประมาณปี 2563 ได้เงินช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 จำนวน 15,000 บาท มาซื้อต้นกล้าพันธุ์โกโก้ จำนวน 2 สายพันธุ์ ประกอบด้วย สายพันธุ์ชุมพร (ชุมพร 1 ชุมพร 2) และสายพันธุ์ IM1 (ไอเอ็มวัน ) จากแม่โจ้จังหวัดเชียงใหม่ จนตอนนี้อายุโกโก้ได้ประมาณ 2 ปีเศษ แต่เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว ขณะที่ยางพาราอายุย่างเข้าปีที่ 4 ยังไม่เปิดกรีด
โกโก้
เป็นพืชที่ปลูกง่ายไม่ยุ่งยากเหมือนพืชร่วมยางชนิดอื่น ประมาณ 1 ปี 8 เดือน ก็เริ่มออกผลผลิตแต่แรกเริ่มไม่มากนัก แต่ขณะนี้ประมาณ 100 ต้น กำลังทยอยออกผล ทำให้สามารถเก็บขายได้ ผลใหญ่ น้ำหนักดี ประมาณ 2-3
ผล/กก. โดยที่ผ่านมาขายในราคากก.ละ 7-8 บาท แต่ขณะนี้ใน
จังหวัดตรัง มีการจัดตั้งเครือข่ายส่งเสริมการปลูกโกโก้ขึ้นมา
มีหน้าที่ทั้งการส่งเสริมการปลูก และจัดหาตลาด รวมทั้งเป็นจุดรวบรวมผลผลิต
ทำให้มีบริษัทติดต่อเข้ามารับซื้อในราคา กก.ละ 10 บาท
ซึ่งถือว่าได้ราคาดีมาก
แต่ละเดือนสามารถเก็บผลผลิตได้ประมาณ
2-3 รอบ
เพราะผลผลิตออกไม่พร้อมกัน ทำให้รอบนี้สามารถเก็บผลผลิตประมาณ 500 กก. คิดเป็นเงินประมาณ 5,000 บาท
ซึ่งบางรอบก็เก็บได้ประมาณ 300 กก. แต่ละเดือนมีรายได้เกือบ 20,000
บาท
ในอนาคตเมื่อผลผลิตออกทั้งหมดจะสามารถเก็บได้เดือนละ
1-2 ตัน
เพราะผลโกโก้น้ำหนักดี ไม่มีแมลงศัตรูพืชรบกวน
และปลูกง่ายเมื่อเริ่มติดดอกใช้ระยะเวลาสั้นประมาณ 2 เดือนก็สามารถเก็บผลผลิตได้โดยโกโก้สามารถเก็บผลผลิตได้ทั้งปี
อายุยืนประมาณ 70 ปี หรือตัดโค่นยางพาราปลูกใหม่ไป 2 รอบ ต้นโกโก้ก็ยังอยู่ โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้งโกโก้จะชอบ ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่ดี
ระหว่างที่ยังไม่เปิดกรีดยางพารา และแม้จะคนที่กรีดยางพาราได้
แต่น้ำยางสดราคาตกต่ำเหลือประมาณ กก.ละ 40 บาท
และภาคใต้ฝนตกชุก ในแต่ละเดือนกรีดยางได้ไม่ถึง 15 วัน
ทำให้เกษตรกรเดือดร้อน
ส่วนของตนก็สามารถมีรายได้เสริมที่ดีจากการจำหน่ายโกโก้ ที่สำคัญแปลงโกโก้ของตนเอง ไม่ใช้สารเคมีในการฆ่าหญ้า แต่จะใช้วิธีตัดหญ้า และจะใส่ปุ๋ยอินทรีย์เท่านั้น เนื่องจากความรู้ที่ได้จากการอบรมและศึกษาดูงาน และจดจำมาปฏิบัติ เกรงว่าในวันข้างหน้าหากมีการส่งผลผลิตไปขายยังต่างประเทศ หากตรวจพบว่ามีสารเคมีปนเปื้อนจะกระทบกับผลผลิตโดยรวมของเกษตรกร ตนเองจึงจำและนำมาปฏิบัติไม่ใช้สารเคมีใดๆ
ขณะนี้
ทางเครือข่ายส่งเสริมการปลูกโกโก้ จะกำหนดให้แปลงโกโก้ของตนเองเป็นแปลงสาธิตการปลูกโกโก้
เพราะถือเป็นแปลงแรกของ อ.วังวิเศษ และ อ.สิเกา ที่ปลูกและมีผลผลิตออกสู่ตลาด
รวมทั้งความสำเร็จในการจัดการแปลง
และหากผลผลิตจำนวนมากรวมทั้งของเกษตรกรรายอื่นๆออกผลผลิตมาด้วย
จะรวมตัวกันจัดตั้งเป็นเกษตรแปลงใหญ่การปลูกโกโก้ และนอกจากส่งจำหน่ายให้บริษัท
จะต่อยอดการแปรรูปเองด้วย ซึ่งเป็นเรื่องทางเครือข่ายกำลังร่วมกันวางแผน
เพื่อให้มีตลาดรองรับที่ชัดเจน
นอกจากนั้นจะเห็นว่าต้นยางพารา
ซึ่งอายุย่างเข้าปีที่ 4 ของตนเอง
ลำต้นจะใหญ่กว่ายางพาราอายุเท่ากันของแปลงอื่น เนื่องจากในช่วงหน้าแล้ง
ซึ่งตนต้องให้น้ำแก่ต้นโกโก้ ทำให้ยางพาราได้รับน้ำไปด้วย
ส่งผลให้เกิดความเจริญเติบโตดี ลำต้นจึงใหญ่สมบูรณ์
เชื่อว่าในอนาคตเมื่อเปิดกรีดจะทำให้น้ำยางดี เปอร์เซ็นต์น้ำยางมากอีกด้วย
ซึ่งเป็นผลดีของการปลูกโกโก้เป็นพืชร่วมยาง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น