สมาชิกกลุ่มรับซื้อน้ำยางของสหกรณ์การเกษตรนาหม่อม มีความหวัง หลังราคาดีดตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ พร้อมฝากขอบคุณนายกฯ และให้ตรึงราคาไว้แบบนี้ เพื่อสร้างรายได้ให้ชาวสวนยางอย่างยั่งยืนหลังสถานการณ์ราคายางพาราดีดตัวสูงขึ้น
ข้อมูลวันที่ 14 มีนาคม 2567 ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ปรับขึ้นอยู่ที่กิโลกรัมละ 90.55 บาท จากเดิมปี 2566 อยู่ที่กิโลกรัมละ 51 บาท ยางแผ่นดิบคุณภาพดีปรับขึ้น ราคากิโลกรัมละ 84.82 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 48 บาท ขณะที่น้ำยางสดอยู่ที่กิโลกรัมละ 77.50 บาท และยางก้อนถ้วยได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน
บรรยากาศการรับซื้อน้ำยาง ที่ ต.ทุ่งขมิ้น อ.นาหม่อม จ.สงขลา พบว่า กลุ่มรับซื้อน้ำยางบ้านทุ่งขมิ้นอยู่ในความดูแลของสหกรณ์การเกษตรนาหม่อม ที่ทำหน้าที่รับซื้อน้ำยางสดแบบซื้อมาขายไปโดยตรงจากสมาชิก โดยสหกรณ์จะรับซื้อน้ำยางจากศูนย์รวบรวมน้ำยางสหกรณ์การเกษตรนาหม่อม ที่มีกลุ่มย่อยรับซื้อน้ำยาง 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มทุ่งขมิ้น, กลุ่มทุ่งโพธิ์, กลุ่มควนจง, กลุ่มคลองหรัง และกลุ่มบ้านลานไทร โดยมีสมาชิกรวมทั้งสิ้น 200 คน และใน 5 กลุ่มนี้ กลุ่มทุ่งขมิ้น เป็นกลุ่มที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเพราะว่า ปริมาณน้ำยางที่ได้รับต่อวันมากถึง 2,000 กิโลกรัม จากเมื่อก่อนมีน้ำยางเพียง 200 กิโลกรัมต่อวัน ส่วนหนึ่งเกิดจากจำนวนสมาชิกที่เพิ่มมากขึ้น
นางนิภา สีมะฆะ หัวหน้าศูนย์รวบรวมน้ำยาง สหกรณ์การเกษตรนาหม่อม เปิดเผยว่า สิ่งที่ทำให้เกษตรในพื้นที่ยอมรับและมั่นใจเข้าร่วมกลุ่มเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากทางศูนย์ รับซื้อน้ำยางจากสมาชิกในราคาที่ยุติธรรม ตรงตามราคาของตลาดกลางยางพาราของ กยท. และอีกอย่างคือการรับซื้อของกลุ่มมีความโปร่งใส โดยสมาชิกสามารถตรวจสอบเปอร์เซ็นต์น้ำยาง ตรวจสอบน้ำหนักจากเครื่องชั่งดิจิตอลด้วยตนเองทุกขั้นตอน จากปกติสมาชิกบางรายขายน้ำยางผ่านพ่อค้าคนกลาง โดยไม่ทราบข้อมูลว่า ราคาน้ำยางขณะนั้นถูกต้องหรือไม่ ซึ่งอาจจะมีการตัดเปอร์เซ็นทำให้รายได้ที่ควรจะได้รับก็ลดลง
นอกจากนี้ ทุกๆ 6 เดือน สหกรณ์การเกษตรนาหม่อม ยังปันผลคืนกำไรเฉลี่ยแก่สมาชิกทุกคนตามกลุ่มที่ขายน้ำยางที่รวมกลุ่มกัน ดังนั้น เกษตรกรชาวสวนยางจึงมั่นใจ เห็นถึงผลประโยชน์จากการรวมกลุ่ม เป็นการบอกให้เห็นว่า ถ้าเรารวมกลุ่มกันของสมาชิกมากเท่าใดผลตอบแทนจะเพิ่มสูงขึ้นตาม จึงอยากให้ทุกคนมารวมกลุ่มกัน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเอง
ขณะที่ ชาวสวนยาง เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญและเข้าใจถึงปัญหา ความต้องการ และความเดือดร้อนของพี่น้องชาวสวนยางพาราเป็นอย่างดี ในการเร่งหาแนวทางช่วยเหลือ เพื่อให้ราคายางพาราสูงขึ้นจากเดิม และจะให้ดีกว่านี้อยากให้มีการตรึงราคายางไว้ หรือปรับตัวสูงขึ้นต่อไปเรื่อยๆ เพื่อสร้างรายได้ให้ชาวสวนยางอย่างยั่งยืน
ที่มา : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น